“มะเร็งปอด” หนึ่งในเครือข่ายสาขาของโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดประเภทหนึ่ง ซึ่งการตรวจหาเจในระยะเริ่มต้นจะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการรักษาได้มากยิ่งขึ้น แต่ก็การตวจพบระยะต้นก็ยากเหมือนกัน ดังนั้น การรับรู้ว่ามะเร็งปอดมีอาการอย่างไร ก้จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างได้ง่าย เพราะรู้เท่าทัน ก็รู้ทางรอดได้เร็วนั่นเอง
มะเร็งปอดมีอาการอย่างไร ทำไมการรู้เท่าทันจึงสำคัญ?
ถามว่าทำไมถึงควรรู้ ว่ามะเร็งปอดมีอาการอย่างไร รู้ไว้ก่อนสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ? ก็คงต้องตอบว่าใช่ เพราะทุกโรค ทุกอาการ หากคุณเข้าใจในสิ่งที่มันแสดงออกมาทางร่างกายทั้งภายใน ภายนอก ก็จะช่วยให้เกิดการรักษาที่รวดเร็ว ยิ่งตรวจพบระยะต้น ๆ ได้ไว โอกาสที่จะเข้าสูjกระบวนการรักษาเพื่อจัดการเนื้อร้ายก็จะยิ่งมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การตระหนักถึงอาการสามารถช่วยให้บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งปอด เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือคนใกล้ชิด ได้มีโอกาสใส่ใจสุขภาพของตนเอง และเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการทำความเข้าใจว่ามะเร็งปอดมีอาการอย่างไรบ้าง จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการตรวจหาและรักษาโรคในระยะเริ่มต้นนั่นเอง
อาการทั่วไปของมะเร็งปอด
อาการไอต่อเนื่อง: อาการไอต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ หรือมีอาการไอเรื้อรังอยู่แล้ว อาจเปลี่ยนแปลงสู่หนึ่งในสัญญาของอาการโรคมะเร็งปอดได้
อาการเจ็บหน้าอก: อาการเจ็บหน้าอกที่มักจะแย่ลงเมื่อหายใจลึก ๆ จากการไอ หรือหัวเราะ อาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคมะเร็งปอด
หายใจถี่: หายใจถี่หรือหายใจดังเสียงฮืด ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าเนื้องอกกำลังปิดกั้นหรือทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
เสียงแหบ: มีอการเสียงแหบหรือการเปลี่ยนแปลงของเสียงในรูปแบบอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นอาการของโรคมะเร็งปอดได้เช่นเดียวกัน
ไอเป็นเลือดหรือเสมหะสีสนิม: การไอเป็นเลือดหรือเสมหะสีสนิมอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปอด
มีอาการเหนื่อยล้า: ความเหนื่อยล้า รวมไปถึงร่างกายที่อ่อนแออาจเกิดจากหลากหลายปัจจัย แต่ก็อาจจะเป็นอาการของโรคมะเร็งปอดได้เช่นเดียวกัน
เบื่ออาหารและน้ำหนักลด: น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ร่วมกับอาการเบื่ออาหาร ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของมะเร็งปอด
มะเร็งปอดมีอาการอย่างไร เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
ไม่ว่าจะพบอาการทั่วไปของมะเร็งปอดในรูปแบบไหน หากคิดว่าตัวเองมีอาการที่เข้าข่ายจะเป็นโรคมะเร็งปอด สิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งปอด เช่น เคยสูบบุหรี่มาก่อน หรือปัจจุบันยังคงสูบอยู่ เป็นต้น นอกจากนี้ หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอดหรือเคยสัมผัสแร่หินหรือสารก่อมะเร็งอื่น ๆ คุณก็อาจมีความเสี่ยงสูง และควรรีบไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน