ทำความรู้จักประกันรถยนต์ พร้อมเทคนิคเลือกซื้อให้ตอบโจทย์

ประกันรถยนต์เปรียบเสมือนเกราะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินสำหรับผู้คนขับขี่บนท้องถนน เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การมีประกันที่เหมาะสมกับความต้องการ ยังเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล กรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์และคู่กรณีได้อีกด้วย
             ประกันรถยนต์มีรูปแบบไหนบ้าง แต่ละประเภทคุ้มครองต่างกันอย่างไร แล้วเราควรเลือกประกันรถอย่างไรให้ได้ความคุ้มครองตอบโจทย์ที่สุด เรารวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับประกันรถยนต์มาฝากผู้ขับขี่ทุกคนในบทความนี้แล้ว!


ประกันรถยนต์คืออะไร
ประกันรถยนต์ คือสัญญาที่ผู้เอาประกันภัยตกลงทำกับบริษัทประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยตกลงจ่ายเบี้ยประกันแลกกับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ รถสูญหายไฟไหม้

ประกันรถยนต์มีประโยชน์อย่างไร
  • คุ้มครองค่าใช้จ่าย กรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • คุ้มครองความเสียหาย แก่รถยนต์ คู่กรณี และทรัพย์สิน
  • ช่วยให้ได้รับค่าสินไหมทดแทน กรณีรถสูญหายหรือถูกโจรกรรม
  • สร้างความอุ่นใจและลดความกังวล บนท้องถนน

ประเภทของประกันรถยนต์
โดยทั่วไป ประกันรถยนต์จะมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
  • ระกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.): คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล สูงสุด 500,000 บาท
  • ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ: แบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก
o   ชั้น 1: คุ้มครองทั้งรถตัวเองและคู่กรณี
o   ชั้น 2+: คุ้มครองรถตัวเอง คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ
o   ชั้น 3+: คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
o   ชั้น 3: คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ


เปรียบเทียบความคุ้มครอง
ประกันแต่ละประเภท มีความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป ดังนี้

ประเภทพ.ร.บ. : คุ้มครองผู้ประสบภัย
ชั้น 1 : คุ้มครองทั้งรถตัวเองและคู่กรณี
ชั้น 2+ : คุ้มครองรถตัวเอง คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ
ชั้น 3+ : คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
ชั้น 3 : คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ

กลไกการทำงานของประกัน
1.ผู้เอาประกันภัย ชำระเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันภัย
2.บริษัทประกันภัยตกลง ให้ความคุ้มครอง แก่ผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์
3.เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คุ้มครองตามกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยสามารถ แจ้งเคลม กับบริษัทประกันภัย
4.บริษัทประกันภัยจะตรวจสอบ และชดเชยค่าสินไหมทดแทน ตามที่ระบุในกรมธรรม์

เทคนิคเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้ตอบโจทย์!
พิจารณาความเสี่ยงในการขับขี่: พิจารณาทั้งประวัติการขับขี่ ลักษณะการขับขี่ รวมไปถึงสถานที่จอดรถ
ประเมินค่าซ่อมแซมรถ: รุ่นและยี่ห้อรถ อายุรถ รวมไปถึงประเภทของอู่ซ่อม
เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท: เปรียบเทียบความคุ้มครอง เปรียบเทียบเบี้ยประกัน และเปรียบเทียบบริการ

เลือกความคุ้มครองเพิ่มเติม:
ประกันชั้น 1: คุ้มครองทั้งรถตัวเองและคู่กรณี
ประกันชั้น 2+: คุ้มครองรถตัวเอง คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ
ประกันชั้น 3+: คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
ประกันชั้น 3: คุ้มครองคู่กรณี กรณีเสียชีวิตหรือพิการ

ศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนด:
 ทุนประกัน: จำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะจ่าย
ข้อยกเว้น: รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ประกันไม่คุ้มครอง
ระยะเวลาคุ้มครอง: ระยะเวลาที่ประกันคุ้มครอง
 เบี้ยประกัน: จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องจ่าย
 
ประกันรถยนต์ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน ทั้งนี้ แนะนำให้เลือกประเภทประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยง โดยศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดก่อนตัดสินใจซื้อ และที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะขับขี่อย่างปลอดภัย และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้!


 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google