5 วิธีเช็กอาการไบโพลาร์: เข้าใจอาการและรับมืออย่างถูกต้อง

โรคไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคทางจิตที่ส่งผลต่ออารมณ์ พลังงาน ระดับการนอนหลับ และความคิดของผู้ป่วย โรคนี้มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีอาการที่แตกต่างกันไป การสังเกตอาการของตัวเองหรือคนใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ หากพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายโรคไบโพลาร์ ควรรีบไปพบแพทย์หรือจิตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือ 5 วิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยคุณเช็คอาการไบโพลาร์


1. สังเกตุอารมณ์แปรปรวน: ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์จะมีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากอารมณ์ปกติทั่วไป
ตัวอย่าง:
        ช่วงแมเนีย: รู้สึกมีความสุข สนุกสนาน มีพลังงานล้นเหลือ พูดมาก คิดเร็ว นอนน้อย ตัดสินใจเร็ว ทุ่มเทให้กับงานอดิเรกอย่างมาก วางแผนใหญ่โต                 
        ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง รู้สึกว่าตัวเองเก่งที่สุด มองโลกในแง่ดีจนเกินไป
        ช่วงซึมเศร้า: รู้สึกเศร้า ซึมเซา หมดไฟ ไม่อยากทำอะไร รู้สึกสิ้นหวัง นอนมาก เบื่ออาหาร สมาธิไม่ดี คิดมาก รู้สึกไร้ค่า โทษตัวเอง มองโลกในแง่ลบ
2. ตรวจสอบการนอนหลับ: ผู้ป่วยไบโพลาร์มักจะมีปัญหาการนอนหลับที่ผิดปกติ
ตัวอย่าง:
         ช่วงแมเนีย: นอนน้อย นอนไม่หลับ หรือรู้สึกว่าไม่ต้องนอนเลย มีพลังงานเหลือล้น นอนกี่ชั่วโมงก็รู้สึกสดชื่น
         ช่วงซึมเศร้า: นอนมากเกินไปจนรู้สึกเหมือนนอนไม่พอ นอนเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่สดชื่น รู้สึกเพลียตลอดเวลา
3. ประเมินระดับพลังงาน: ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีระดับพลังงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
ตัวอย่าง:
         ช่วงแมเนีย: รู้สึกมีพลังงานล้นเหลือ ทำอะไรก็ดูสดใส กระฉับกระเฉง ไม่อยากอยู่นิ่ง รู้สึกตื่นเต้น พูดมาก คิดเร็ว ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
         ช่วงซึมเศร้า: รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ทำอะไรก็ดูช้า ไม่อยากทำอะไร รู้สึกเหมือนแบกอะไรไว้หนัก ๆ ขี้เกียจ เฉื่อยชา
4. สังเกตุความคิด: ผู้ป่วยไบโพลาร์มักจะมีความคิดที่รวดเร็ว สับสน มุ่งเน้นไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ตัวอย่าง:
        ช่วงแมเนีย: ความคิดแล่นเร็ว สับสน คิดหลายอย่างพร้อมกัน มุ่งเน้นไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดว่าตัวเองเก่งที่สุด มีแผนการใหญ่โต ตัดสินใจเร็วโดยไม่คิดรอบคอบ
        ช่วงซึมเศร้า: ความคิดด้านลบ คิดมาก รู้สึกไร้ค่า โทษตัวเอง สิ้นหวัง มองโลกในแง่ลบ คิดถึงอดีต ตัดสินใจอะไรก็ลำบาก
5. ประเมินพฤติกรรม: ผู้ป่วยไบโพลาร์มักจะมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อตัวเองหรือผู้อื่น
ตัวอย่าง:
        ช่วงแมเนีย: ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิด มีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง ขับรถเร็ว เสพสารเสพติด เล่นการพนัน ทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์
        ช่วงซึมเศร้า: ละเลยการดูแลตัวเอง ไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำ เก็บตัวอยู่คนเดียว คิดทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
 
หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ แสดงว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไบโพลาร์ ควรไปพบแพทย์หรือจิตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้ การเข้าใจโรคไบโพลาร์ การสังเกตอาการ และการรับการรักษาที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพ
 


 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google