‘แบบเหล็ก’ เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับงานก่อสร้างทุกประเภท เนื่องจากทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับและหล่อคอนกรีต ซึ่งหากเลือกใช้แบบเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้างได้
ซึ่งมาตรฐานการผลิตแบบเหล็ก จะกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับแบบเหล็ก เช่น คุณสมบัติของเหล็ก กระบวนการผลิต การทดสอบคุณภาพ ฯลฯ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าแบบเหล็กมีความปลอดภัยและมีคุณภาพดี สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถนำมาพิจารณาปัจจัยในการเลือก
แบบเหล็กให้ตรงตามมาตรฐานได้ ดังนี้
1. ชนิดและขนาดของเหล็ก แบบเหล็กทำจากเหล็กหลายชนิด เช่น เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย เหล็กแผ่น เหล็กกล่อง เป็นต้น ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เหล็กเส้นนิยมใช้สำหรับงานหล่อเสา เหล็กข้ออ้อยนิยมใช้สำหรับงานหล่อพื้น เหล็กแผ่นนิยมใช้สำหรับงานหล่อหลังคา เป็นต้น
นอกจากนี้ การเลือกขนาดของเหล็กก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างที่ต้องการหล่อ เช่น โครงสร้างขนาดใหญ่ควรใช้เหล็กที่มีขนาดและขนาดความหนามากกว่าโครงสร้างขนาดเล็ก
2. มาตรฐานการผลิต แบบเหล็กควรผลิตตามมาตรฐานที่กำหนด โดยในประเทศไทยมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) กำหนดไว้สำหรับแบบเหล็กหลายชนิด เช่น มอก. 2531-2553 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต มอก. 2532-2553 เหล็กข้ออ้อยเสริมคอนกรีต มอก. 2533-2553 เหล็กแผ่นเสริมคอนกรีต มอก. 2534-2553 เหล็กกล่องเสริมคอนกรีต เป็นต้น
การเลือกแบบเหล็กที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแบบเหล็กมีความปลอดภัยและมีคุณภาพดี สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. สภาพของแบบเหล็ก ก่อนซื้อแบบเหล็กควรตรวจสอบสภาพของแบบเหล็กให้อยู่ในสภาพดี ไม่ชำรุดเสียหาย มีรอยเชื่อมแน่นหนา ไม่มีสนิมหรือคราบน้ำมันเกาะติดอยู่ หากพบความเสียหายควรหลีกเลี่ยงการซื้อแบบเหล็กนั้น
4. ยี่ห้อและราคา นอกจากปัจจัยด้านคุณภาพแล้ว ยี่ห้อและราคาก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อแบบเหล็ก โดยยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมักมีมาตรฐานการผลิตที่ดีและราคาสูงกว่ายี่ห้อทั่วไป อย่างไรก็ตาม การเลือกแบบเหล็กที่มีคุณภาพดีไม่จำเป็นต้องเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงเสมอไป เราสามารถพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกัน เช่น มาตรฐานการผลิต สภาพของแบบเหล็ก เป็นต้น
5. แหล่งจำหน่าย ควรเลือกซื้อแบบเหล็กจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น โรงงานผลิตแบบเหล็กโดยตรง หรือร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่มีมาตรฐาน มีใบรับรองคุณภาพสินค้า และให้บริการหลังการขายที่ดี
การเลือกแบบเหล็กให้ตรงตามมาตรฐานจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแบบเหล็กมีความปลอดภัยและมีคุณภาพดี สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้างโดยรวม ดังนั้นจึงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ในการเลือกซื้อแบบเหล็กอย่างรอบคอบ