ตับวาย สาเหตุจากไวรัสตับอักเสบตับวาย (Liver Failure) คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อตับได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถฟื้นฟูตับให้กลับมาทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่ออวัยวะข้างเคียง ตับวายที่เกิดขึ้นกับชาวเอเชีย มักจะมีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดต่างๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ตับวายตับวายเฉียบพลัน และตับวายเรื้อรัง
สาเหตุของภาวะตับวาย
การรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด
การรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาแก้อักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) ยาต้านเศร้า ยาต้านเชื้อรา และยารักษาโรคลมชัก เป็นต้น
การใช้ยาเสพติด เช่น ยาอี (Ecstasy) หรือโคเคน
การรับประทานอาหารเสริมสมุนไพรที่เป็นพิษต่อตับ เช่น ขี้เหล็ก บอระเพ็ด
การได้รับสารพิษจากเห็ด Amanita Phalloides
การติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบ เช่น ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี อี และไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเริม เป็นต้น
โคหรือภาวะต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งตับ ภาวะเหล็กเกิน
การติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบ เช่น ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี อี
ตับแข็ง จากการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เป็นระยะเวลานาน
อาการของภาวะตับวาย
คลื่นไส้
เบื่ออาหาร
อ่อนเพลีย
ท้องเสีย
น้ำหนักลด
มีอาการคัน
มีรอยช้ำ หรือเลือดออกง่าย
ภาวะดีซ่าน
อาการบวมน้ำบริเวณขา
ตับ หรือม้ามมีขนาดใหญ่ขึ้น
ภาวะท้องมาน
ภาวะขาดน้ำ
มือสั่น กระตุก
เซื่องซึม
โคม่า
การวินิจฉัยภาวะตับวาย
การตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของตับ
การตัดตัวอย่างชิ้นเนื้อไปวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ (Biopsy) เพื่อตรวจหาความเสียหายของตับ
การอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน
การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
การถ่ายภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
การรักษาตามอาการ
การรักษาแบบเฉพาะกับสาเหตุ เช่น การให้ยาต้านพิษจากการรับประทานพาราเซตามอล และเห็ดพิษ
การผ่าตัดเปลี่ยนตับ
การใช้เครื่องพยุงการทำงานของตับ (liver support device) โดยจะใช้โปรตีนอัลบูมินในปริมาณมาก ในการจับสารพิษที่เกิดจากภาวะตับวาย การรักษาด้วยวิธีนี้จะช่วยให้บรรเทาอาการดีซ่านลดลง การทำงานของไตและระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
การป้องกันภาวะตับวาย
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอยู่เสมอ
หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หากมีเพศสัมพันธ์ควรใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
หลีกเลี่ยงการใช้ยาเกินขนาด และก่อนใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ และบี
ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ภาวะตับวายเฉียบพลัน สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่เคยมีประวัติการเป็นโรคตับมาก่อน เป็นอันตรายถึงชีวิตหากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที เมื่อมีอาการที่สงสัยว่าเป็นตับอักเสบควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มต้น
