แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 16
1
ตราบใดที่เรายังฉลองกันด้วยแอลกอฮอล์ ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องมีคนเมาค้างในวันรุ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่อาการเมาค้างจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง ถึงจะไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่การเยียวยาตามอาการสามารถช่วยบรรเทาอาการให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล


1 กินไข่

ไข่มีกรดอะมิโนซิสเทอีน (Cysteine) ซึ่งสามารถช่วยขจัดอะซีตัลดีไฮด์ออกจากระบบในร่างกายของคุณได้ จากบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Chemistry ปี 2018 ระบุว่า อะซีตัลดีไฮด์ถูกผลิตขึ้นระหว่างการเผาผลาญแอลกอฮอล์ เมื่อคุณดื่มมาก ร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญอะซีตัลดีไฮด์ได้เร็วพอ การมีอะซีตัลดีไฮด์ในเลือดมากเกินไปมีความเชื่อมโยงกับอาการเมาค้าง เช่น ปวดศีรษะ เหงื่อออก คลื่นไส้ และอาเจียน


2 กินกล้วย

กล้วยเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดี แร่ธาตุสำคัญชนิดนี้จะลดลงหลังจากดื่ม ซึ่งสามารถนำไปสู่อาการเมาค้างได้ เช่น เหนื่อยล้า ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดกล้ามเนื้อ และพลังงานต่ำ กล้วยหนึ่งลูกมีโพแทสเซียม 425 มิลลิกรัม หรือประมาณ 12% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน อาหารอื่นๆ ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ได้แก่ อะโวคาโด ผักโขม มันฝรั่งอบ ปลาแซลมอน


3 กินของขบเคี้ยว (รสเค็ม)

การรับประทานอาหารรสเค็มสามารถช่วยเติมโซเดียมในร่างกายของคุณ ซึ่งอาจหมดลงหลังจากดื่มหนัก ตัวอย่างเช่น ขนมขบเคี้ยวต่างๆ ผลไม้ดอง หรือถ้าโหยหนักก็จัดก๋วยเตี๋ยวไก่สักชามไปเลย


4 กินคาร์บ

คาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด โดยจะช่วยบรรเทาอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับอาการเมาค้าง เช่น เหนื่อยล้าและอ่อนแรง หากอาการเมาค้างทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้ คุณอาจต้องการทานอาหารรสจืด เช่น ขนมปังปิ้ง ซึ่งจะช่วยให้อิ่มท้อง หรืออาจเลือกรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่ว ข้าวกล้อง หรือผัก


5 ดื่มน้ำมากๆ

แม้ว่าภาวะขาดน้ำจะไม่ใช่สาเหตุเดียวของอาการเมาค้าง แต่ก็เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง การดื่มน้ำหรือของเหลวอื่นๆ เมื่อคุณมีอาการเมาค้างจะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ปากแห้ง และเหนื่อยล้า อันเนื่องมาจากการขาดน้ำได้ ดร.มีอา แมตทิโอลี แพทย์ประจำโรงพยาบาลฮันติงตันในแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดปริมาณที่แน่นอน แต่ยิ่งดื่มเยอะก็ยิ่งดี "การดื่มน้ำควบคู่ไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถช่วยได้เช่นกัน เพราะจะทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และอาจช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่คุณบริโภคได้" ดร.แมตทิโอลีกล่าว


6 เติมความสดชื่นด้วยอิเล็กโทรไลต์

เครื่องดื่มที่มีอิเล็กโทรไลต์จะช่วยให้คุณกักเก็บน้ำในร่างกายได้ดี ของเหลวรสเค็ม เช่น ซุปต่างๆ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ จะช่วยทดแทนเกลือและโพแทสเซียมที่คุณสูญเสียจากการปัสสาวะบ่อยขณะดื่มได้


7 ดื่มกาแฟ

กาแฟหรือชาช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอาการเมาค้างทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและปวดหัว คาเฟอีนสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวและเพิ่มพลังงานให้กับคุณได้ แต่ข้อควรระวังคือ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นยาขับปัสสาวะได้เช่นกัน และอาจทำให้คุณขาดน้ำมากขึ้น


8 ลองอาหารเสริม

อาหารเสริมและสารสกัดบางชนิดอาจช่วยรักษาอาการเมาค้างได้ แม้ว่า ดร.แมตทิโอลีจะเตือนว่าสิ่งที่ใช้ได้ผลกับคนคนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง เธอกล่าวว่าโดยทั่วไปแล้วการลองใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดต่างๆ นั้นไม่มีอันตราย ตราบใดที่คุณไม่ได้กินเกินปริมาณที่แนะนำ



9 อย่าดื่มถอนเพื่อแก้อาการ

หลายคนอ้างว่าการดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งแก้วในเช้าวันรุ่งขึ้นสามารถช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้ ทว่ากรณีนี้แพทย์ไม่เคยแนะนำ และการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การดื่มเพื่อรักษาอาการเมาค้างนั้นสัมพันธ์กับปัญหาการดื่มและการติดสุรา


10 งดเครื่องดื่มบางชนิด

เครื่องดื่มบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการเมาค้างแย่กว่าเครื่องดื่มชนิดอื่น มีหลักฐานบางอย่างชี้ชัดว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสาร congeners สูง นอกจากนำไปสู่โรคมะเร็งแล้ว ยังทำให้เกิดอาการเมาค้างที่รุนแรงขึ้น ตัวอย่างเช่น บูร์บงและวิสกี้จะมี congeners สูง ในขณะที่วอดก้าไม่มีเลย




อาหารวิธีแก้แฮ้งค์ แก้อาการเมาค้างได้เยี่ยมที่สุด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

2
โพสฟรี / ตรวจอาการ: ตะกั่วเป็นพิษ (Lead poisoning)
« เมื่อ: 15พฤษภาคม2024, 20:46:47pm »
ตะกั่ว เป็นสารโลหะหนักที่ร่างกายรับเข้าไปในปริมาณมากเกินอาจมีพิษต่อระบบประสาทและสมอง และระบบต่าง ๆ เรียกว่า ภาวะตะกั่วเป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้เป็นครั้งคราว ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่


สาเหตุ

เกิดจากการสูดไอตะกั่ว หรือกินหรือสัมผัสสารตะกั่ว (ดูดซึมผ่านผิวหนัง) เป็นเวลานาน จนร่างกายมีการสะสมสารตะกั่วถึงระดับที่เป็นพิษ

มักเกิดจากการประกอบอาชีพในโรงงานที่มีสารตะกั่ว หรือเกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเกิดจากการเล่นซนของเด็ก ๆ

ในบ้านเราอาจพบการรับพิษสารตะกั่วจากแหล่งต่าง ๆ เช่น

1. ทำงานในโรงงานทำแบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉาย ร้านอัดแบตเตอรี่ หรือขายแบตเตอรี่ ร้านเจียระไนเพชรพลอย (ซึ่งมีเครื่องมือที่มีตะกั่วเป็นส่วนประกอบ) โรงพิมพ์ที่ใช้ตัวพิมพ์ทำจากสารตะกั่ว ร้านเชื่อมโลหะ เป็นต้น

2. ใช้เปลือกแบตเตอรี่ที่ทิ้งแล้วมาเป็นเชื้อเพลิงเคี่ยวน้ำตาล หรือมาปูลาดเป็นทางเดิน

3. ดื่มน้ำที่มีสารตะกั่วเจือปน เช่น น้ำจากบ่อที่แปดเปื้อนสารตะกั่ว หรือน้ำจากท่อที่มีส่วนผสมของตะกั่วมากเกินไป

4. สีทาบ้านและสีที่ใช้ทาของเล่นที่มีสารตะกั่วเจือปน เด็กอาจหยิบกินโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

5. แป้งทาเด็กที่มีสารตะกั่วเจือปน (เช่น ร้านขายยานำแป้งที่ใช้ผสมสีทาบ้านมาขายเป็นแป้งทาแก้ผดผื่นคัน) ผู้ปกครองซื้อมาทาเด็กโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนเกิดพิษตะกั่วเรื้อรัง

บางครั้งอาจเป็นกันทั้งครอบครัวหรือทั้งหมู่บ้าน หรือทั้งโรงงาน ถ้าหากมีการรับสารตะกั่วจากแหล่งเดียวกัน เช่น ดื่มน้ำจากบ่อเดียวกัน หรือทำงานในโรงงานเดียวกัน


อาการ

ผู้ป่วยอาจแสดงอาการได้หลายอย่าง เช่น ปวดบิดในท้องอย่างรุนแรงโดยหาสาเหตุไม่พบ ร่วมกับอาการท้องผูก หรือไม่ก็ถ่ายเป็นเลือด

อาจมีอาการซีด เนื่องจากเม็ดเลือดแดงถูกทำลายเร็วขึ้น และสร้างได้น้อยเนื่องจากพิษของตะกั่วที่มีต่อระบบเลือด

อาจมีอาการปลายประสาทอักเสบ ซึ่งจะพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก ที่พบได้บ่อย คือ ประสาทมือเป็นอัมพาต ทำให้ข้อมือตก เหยียดไม่ขึ้น และประสาทเท้าเป็นอัมพาต ทำให้ปลายเท้าตก เดินขาปัด

ที่ร้ายแรง ได้แก่ ภาวะผิดปกติทางสมอง ซึ่งจะพบมากในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ส่วนผู้ใหญ่พบได้น้อย เด็กจะมีอาการเดินเซ อาเจียน ซึม เพ้อ บุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิมนำมาก่อน แล้วจะมีอาการชักและหมดสติ ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาก็มักจะเสียชีวิตในที่สุด หรือไม่ก็อาจกลายเป็นสมองพิการและปัญญาอ่อน

ส่วนในรายที่มีพิษตะกั่วเรื้อรัง อาจมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หงุดหงิด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ ขาเป็นตะคริว

บางรายอาจพบรอยสีเทา ๆ ดำ ๆ ของสารตะกั่วที่ขอบเหงือก ในผู้ที่ไม่มีฟันจะไม่พบอาการนี้ และในเด็กก็มีโอกาสพบอาการดังกล่าวได้น้อย


ภาวะแทรกซ้อน

อาจมีภาวะสมองพิการ ปัญญาอ่อน ภาวะโลหิตจาง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ และทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจดูระดับตะกั่วในเลือด (พบสูงกว่า 80 ไมโครกรัม/เลือด 100 มล.) และในปัสสาวะ (พบสูงกว่า 1 มก./ปัสสาวะ 24 ชั่วโมง) สารคอโพรพอร์ไฟริน (coproporphyrin) ในปัสสาวะจะมีค่าสูงกว่า 50 ไมโครกรัม/ปัสสาวะ 100 มล.

การตรวจดูเม็ดเลือดแดง จะพบลักษณะที่เรียกว่า basophilic stippling

การตรวจเอกซเรย์ อาจพบรอยทึบแสงของสารตะกั่วในลำไส้ และรอยสะสมของตะกั่วที่ปลายกระดูกแขนขา


การรักษาโดยแพทย์

การรักษา มักจะฉีดยาขับตะกั่ว ได้แก่ ไดเมอร์เเคปรอล (dimercaprol) ร่วมกับแคลเซียมไดโซเดียมอีดีเทต (calcium disodium edetate)

เมื่ออาการดีขึ้น ควรให้กินเพนิซิลลามีน (penicillamine) ต่ออีก 1-2 เดือน (ในผู้ใหญ่) หรือ 3-6 เดือน (ในเด็ก)

ผลการรักษา ถ้าไม่มีอาการทางสมอง ก็มักจะหายเป็นปกติได้ แต่ถ้ามีอาการทางสมอง อาจมีอันตรายถึงทุพพลภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี อาจมีอัตราตายถึงร้อยละ 25


การดูแลตนเอง

หากสงสัยมีอาการจากตะกั่วเป็นพิษ เช่น ปวดท้องหรือซีดโดยหาสาเหตุไม่พบ ข้อมือตก ข้อเท้าตก เดินเซ บุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เพ้อ ชัก เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์ 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคตะกั่วเป็นพิษ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสารตะกั่ว (เช่น โรงงานแบตเตอรี่) ควรหามาตรการป้องกันโดยการจัดสภาพการทำงานให้ปลอดภัย (เช่น มีเสื้อคลุมป้องกันพิษตะกั่ว มีอ่างน้ำและห้องอาบน้ำพอเพียง มีทางระบายไม่ให้มีการสะสมของฝุ่นตะกั่ว) ห้ามสูบบุหรี่และกินอาหารในห้องที่มีสารตะกั่ว และควรมีการตรวจระดับตะกั่วในเลือดและปัสสาวะทุก 6 เดือน ถ้าพบว่าระดับตะกั่วสูงควรให้หยุดงาน หรือเปลี่ยนไปทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับสารตะกั่ว ถ้าสูงมากควรให้กินยาลดสารตะกั่ว ถึงแม้จะยังไม่มีอาการแสดงก็ตาม

2. ควรแนะนำให้ประชาชนทั่วไปทราบถึงอันตรายของตะกั่วเจือปนอยู่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย สีทาบ้าน ของเล่นเด็ก เป็นต้น เพื่อป้องกันมิให้นำไปใช้ในทางที่ผิด ๆ หรือหาทางป้องกันมิให้เด็ก ๆ หยิบกินเล่นด้วยความไร้เดียงสาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์


ข้อแนะนำ

1. โรคตะกั่วเป็นพิษอาจมีอาการได้หลายแบบ ดังนั้น ถ้าพบผู้ที่มีอาการปวดท้อง ซีด ข้อมือตก ข้อเท้าตก บุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เพ้อ ชัก หรือหมดสติ ควรถามประวัติการเกี่ยวข้องกับสารตะกั่ว หากสงสัยควรไปส่งตรวจรักษาที่โรงพยาบาล

2. ผู้ที่มีอาการผิดปกติทางสมองเนื่องจากตะกั่วเป็นพิษ อยู่ ๆ อาจแสดงอาการแปลก ๆ เช่น เพ้อ คลุ้มคลั่ง ชัก ชาวบ้านอาจเข้าใจผิดว่าเกิดจาก "ผีเข้า" หรือ "วิกลจริต" แล้วพาไปรักษาทางไสยศาสตร์ ซึ่งมักจะเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถ ทางที่ดีควรหาทางชักจูงให้ไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล เพราะมีทางรักษาให้หายได้



ตรวจอาการ: ตะกั่วเป็นพิษ (Lead poisoning) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

3
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ง และขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง พร้อมนำเสนอบริการด้านการขายและบริการหลังการขายแบบครบวงจร ด้วยโชว์รูม ศูนย์บริการ รวมถึงศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ครบจบในที่เดียว ในทำเลที่โดดเด่นบนถนนรามคำแหง หนึ่งในทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ  เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นในพื้นที่ย่านรามคำแหง พระราม 9 และเพชรบุรี
 

 
มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง นับเป็นโชว์รูมจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์มิตซูบิชิ แห่งที่ 3 ภายใต้การดำเนินการของบริษัท อาร์.เอ็ม.เอ. เทรดดิ้ง ที่ต่อเนื่องความสำเร็จจากโชว์รูมและศูนย์บริการ สาขาลุมพินี และสาขาพระราม 3  ช่วยเสริมสร้างและตอกย้ำความแข็งแกร่งให้แก่เครือข่ายผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพในการมอบรถยนต์และบริการเหนือระดับ รวมถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าชาวไทยที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริการแบบครบวงจรทั้งบริการด้านการขายและหลังการขายภายใต้มาตรฐานสูงสุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินการเพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจในตลาดประเทศไทย
 

 
มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 1 ไร่ ภายในโชว์รูมและศูนย์บริการประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงรถยนต์มิตซูบิชิ มากสูงสุด 5 คัน สำนักงานฝ่ายขาย และห้องส่งมอบรถใหม่ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการที่ประกอบด้วย พื้นที่ต้อนรับลูกค้า

 
พร้อมด้วย 15 ช่องซ่อมบำรุง โดยการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอาร์.เอ็ม.เอ. เทรดดิ้ง ในการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการแบบครบวงจร เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยสถานที่ตั้งที่ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถยนต์และบริการเหนือระดับได้สะดวกสบายและง่ายต่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น
 

motor expo 2024: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ Mitsubishi R.M.A. อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorexpo/

4
หากคุณเป็นโรคเบาหวาน คุณคงจะรู้ดีว่าการเลือกกินอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนั้นยากเพียงใด อาหารบางชนิดก็ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ในขณะที่อาหารบางชนิดก็สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้


1.ผักใบเขียว

มักเป็นผักที่ไม่มีแป้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณสามารถรับประทานได้ ผักไม่เพียงแต่จะทำให้อิ่ม แต่ยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ซึ่งสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากในผักเป็นอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลเพียงเล็กน้อยและเส้นใยอาหารสูง

คุณจึงสามารถรับประทานผักได้มากเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูง ผักใบเขียวเต็มไปด้วยสารอาหารและมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ หมายความว่าน้ำตาลในเลือดของคุณจะไม่เพิ่มขึ้นมากนักไม่ว่าคุณจะกินมากแค่ไหนก็ตาม ผักใบเขียวที่ดีที่ควรรับประทานเป็นประจำคือผักโขมและคะน้า เนื่องจากมีวิตามินซีสูงมาก วิตามินซีมีส่วนในการช่วยควบคุมโรคเบาหวานและสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม นอกจากนี้ผักใบเขียวอื่น ๆ ก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องดวงตาจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้


2. ปลาที่มีไขมันดี
ไม่ว่าคุณจะกำลังพยายามควบคุมน้ำตาลในเลือดหรือไม่ก็ตาม การกินปลาที่มีไขมันดีก็สามารถช่วยบำรุงร่างกายและเป็นอาหารที่ควรกินเป็นประจำ ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอนและปลาทูน่าให้กรดไขมันโอเมก้า 3 DHA และ EPA ในปริมาณมาก ซึ่งช่วยปกป้องหัวใจจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากโรคเบาหวาน DHA และ EPA ช่วยปกป้องหลอดเลือด ลดการอักเสบ และช่วยปรับการทำงานของหลอดเลือดแดงให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ปลาที่มีไขมันยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีที่จะช่วยให้รู้สึกอิ่มและช่วยควบคุมน้ำหนักได้


3. ถั่วต่าง ๆ
อาหารอื่นๆ ที่ช่วยควบคุมเบาหวานและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ ถั่วต่าง ๆ เพราะถั่วมีไฟเบอร์สูงและถั่วส่วนใหญ่ก็ยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ย่อยได้ช้า ซึ่งทำให้ถั่วจะไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือด

ประเภทของถั่วที่ดีที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่ อัลมอนด์ ถั่วบราซิล เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เฮเซลนัท แมคคาเดเมีย พีแคน พิสตาชิโอ และวอลนัท หากคุณกำลังควบคุมน้ำหนัก อย่าลืมกินถั่วในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะแม้ว่าถั่วจะมีสารอาหารที่จำเป็นและมีไขมันดี แต่หากกินมากเกินก็ทำให้เราอ้วนได้อยู่ดี


4. ไข่
ไข่เป็นแหล่งของไขมันดีที่มีประโยชน์ในการช่วยควบคุมเบาหวาน ไข่สามารถช่วยปรับปรุงความไวของอินซูลินและลดการอักเสบ ในขณะเดียวกันก็ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดปริมาณอนุมูลอิสระในร่างกาย และป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการกินไข่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ก็อย่าลืมกินไข่แดงเข้าไปด้วยเพราะเป็นแหล่งของสารอาหารที่จำเป็น


5. ธัญพืช
เมล็ดพืชบางชนิดก็มีส่วนสำคัญในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือดและโรคเบาหวาน เมล็ดพืชที่ควรรับประทาน ได้แก่ เมล็ดเจียและเมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจียเต็มไปด้วยไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ในขณะที่เมล็ดแฟลกซ์ มีประโยชน์เนื่องจากสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และลดโอกาสในการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง


6. อาหารที่มีไขมันตามธรรมชาติ
เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และเป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ น้ำมันมะกอกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากที่ช่วยลดการอักเสบ ช่วยปกป้องเซลล์ และลดความดันโลหิต แต่นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารไขมันธรรมชาติอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลสะสมและโรคเบาหวาน ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันถั่วชนิดใดก็ได้ น้ำมันหมู ไขมันไก่และเป็ด และกะทิด้วย


7. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหรือแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและยังเหมาะกับการเป็นอาหารเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ด้วยเหตุผลเพราะกรดอะซิติกจะช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงที่เราอดอาหาร และลดการตอบสนองของน้ำตาลในเลือดได้มากถึง 20% เมื่อจับคู่กับมื้ออาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต แต่เนื่องจากน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง วิธีที่ดีที่สุดในการกินคือการผสมกับน้ำสะอาดและใช้หลอดหรือช้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายเคลือบฟันและหลอดอาหาร


8. อบเชย
เครื่องเทศเป็นอาหารที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อต้องควบคุมโรคเบาหวานและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เครื่องเทศที่เราแนะนำให้รับประทานคืออบเชย เพราะอบเชยสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน และช่วยลดระดับ HbA1c หรือค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด โดยเราอาจเพิ่มอบเชยลงในอาหารหรือเครื่องดื่มก็ได้


9. ขมิ้น
ขมิ้นสามารถช่วยลดการอักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และยังเป็นประโยชน์ต่อการบำรุงสุขภาพไตได้อีกด้วย และนอกจากนี้ขมิ้นยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการช่วยชะลอวัยและลดการเกิดริ้วรอย


10. กรีกโยเกิร์ต
อาหารที่มีโปรไบโอติกส์นั้นดีต่อสุขภาพ อย่างกรีกโยเกิร์ตก็เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีน้ำตาลต่ำและมีโปรไบโอติกส์สูง จากการศึกษาพบว่ากรีกโยเกิร์ตสามารถช่วยเพิ่มการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อย่างไรก็ตามพยายามเลือกกรีกโยเกิร์ตแบบที่ไม่มีการใส่น้ำตาลเพิ่มเพราะจะให้ประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลสะสมดีกว่า

อาหารสุขภาพ ช่วยลดน้ำตาลสะสมในเลือด ลดค่า HbA1c ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

5
วิธีดูแลฟันในขณะที่มี การจัดฟัน อยู่นั้น เรามีเทคนิคดูแลรักษาฟันดีๆมาแนะนำให้กับผู้ที่จัดฟันอยู่กับสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปคือ เรื่องของการดูแลนั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่มักมีปัญหาอยู่มากมายสำหรับผู้ที่จัดฟันนั้น ต้องยอมรับว่ามีอยู่มากมายจริงๆ เพราะว่าเจ้าเครื่องมือที่ยึดติดบนผิวฟันของเราหรือที่เรียกกันว่า Bracket นั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาภายในช่องปากหากดูแลไม่ดี เพราะการทำความสะอาดที่ยากขึ้นนั่นเอง !


4 เทคนิคช่วยในการดูแลช่องปากเพื่อการป้องกันและลดปัญหาและอย่างถูกวิธี


1.การทำความสะอาด เป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับคนจัดฟันดังนั้น การดูแลช่องปากและฟันควรจะต้องสะอาดเสมอ เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่นบริเวณ bracket มีโอกาสสูงมากๆที่พวกคราบจุลินทรีย์เศษอาหารจะเข้าไปติดอยู่ และ ถือได้ว่าเป็นที่มาหลักๆของการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบอีกด้วย การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟัน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่จัดฟัน หลักๆแล้วนั้นควรจะแปรงวันล่ะ 3 ครั้ง
ตั้งแต่ช่วงเช้าตอนตื่นนอน หลังมื้ออาหารทุกมื้อและก่อนนอนอีกด้วย และ ควรใช้แปรงสีฟันเฉพาะ ที่สร้างมาเพื่อการจัดฟันร่วมกับยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ด้วย เพื่อป้องกันฟันผุ และที่สำคัญบ้วนปากทุกครั้งหลังการกินอาหารด้วย


2.อาหาร ขนมและอาหาร ที่ควรหลีกเลี่ยง อาหารที่ต้องหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารแข็งๆกรอบๆทั้งหลาย เช่น น้ำแข็ง , ข้าวโพดคั่ว , ถั่วชนิดต่าง ๆ หรือแม้แต่ขนมขบเคี้ยวที่มีลักษณะเหนียวๆ เช่น หมากฝรั่ง ทอฟฟี่และพวกของหวาน เช่น ลูกกวาด น้ำอัดลม เพราะของกินพวกนี้เป็นที่มาของการมีคราบจุลลินทรีย์และคือต้นเหตุหลักของการทำให้เกิดฟันผุได้ดีที่สุด ถ้าหากทั้งกิน แล้วยังคงไม่ทำความสะอาดไม่ดีอีก รับรองฟันผุแน่นอน


3.หลีกเลี่ยงการเคี้ยว กัด ของแข็ง เนื่องจาก วัยส่วนใหญ่ที่จัดฟันนั้น มักเป็นวัยรุ่นอยู่และพฤติกรรมการเคี้ยว กัด แถะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ดังนั้น พยายามอย่าขบเคี้ยวของแปลกปลอม เช่น ห้ามกัดดินสอ ยางลบ ที่หนีบกระดาษ
หรือสิ่งอื่นๆเล่น เพราะของแข็งเหล่านี้ นอกจากทำให้เกิดโอกาสที่วัสดุอุปกรณ์ติดฟันนั้นจะหลุดแล้ว ยังอาจจะก่อให้เกิดโอกาสฟันบิ่นหรือแตกได้อีกด้วย


4.งดพฤติกรรมการกัดเล็บเวลาเครียด พฤติกรรมนี้เป็นมากในฝั่งชาวตะวันตก โดยเฉพาะที่ประเทศอเมริกา การกัดเล็บ นอกจากจะเสียบุคคลิกแล้วยังเสี่ยงต่อการทำให้ฟันสึกได้ เพราะคนส่วนใหญ่เวลาที่เครียดมักจะเผลอนั่งกัดเล็บตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว ควรจะฝึกและหลีกเลี่ยง การดูดนิ้ว การกัดเล็บและการใช้ลิ้นดุนพวกเครื่องมือจัดฟันในปากเพราะจะทำให้ฟันไม่เข้าที่และจะกระทบกับแผนการจัดฟันที่คุณหมอวางไว้อีกด้วย

เทคนิคง่ายๆ เพื่อช่วยให้ผู้จัดฟันมีช่องปากที่ดีแล้ว นอกจากจะมีฟันที่สวยงามแล้ว
ยังมีสุขภาพฟันที่ดีอีกด้วย และอย่าลืมพบทันตแพทย์เป็นประจำตามที่ทันตแพทย์นัดเพราะหากไม่ไปพบแล้ว การจัดฟันจะไม่เข้าที่และอาจจะใช้เวลานานกว่าเดิม แถมยังมีปัญหาตามมาอีกมากมายได้



เทคนิคง่ายๆ ในการดูแลช่องปากเพื่อป้องกันปัญหาในการจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

6
มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปัจจุบันถือเป็นรถกระบะที่ลูกค้าทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกต่างชื่นชอบด้วยหลากหลายเหตุผล นอกจากรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง รถกระบะรุ่นนี้ยังได้รับเสียงชื่นชมอย่างยอดเยี่ยมทั้งในด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน สมรรถนะของเครื่องยนต์ การขับขี่ที่คล่องตัว ความทนทาน และความมั่นใจในทุกการใช้งาน คุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ถูกผสานกันไว้ใน มิตซูบิชิ ไทรทัน รถกระบะที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด ‘แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค’ และถือเป็นรถกระบะที่มีสมรรถนะสูงที่สุดรุ่นหนึ่งที่ลูกค้าชาวไทยสามารถวางใจเลือกใช้งาน

และนี่คือ 7 เหตุผลหลักที่ทำให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถครองใจลูกค้าและควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ


1. โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทรงพลังทั้งภายในและภายนอก

ความโดดเด่นอันดับแรกของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้แก่ การดีไซน์ภายนอกอันทรงพลังด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced ‘Dynamic Shield’ ที่ทันสมัยและทำให้รถกระบะรุ่นนี้มีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ด้วยขนาดที่เหมาะสม และบุคลิกของรถกระบะระดับพรีเมียมขนานแท้ภายใต้แนวคิด ‘แกร่งดังหินผา’ ที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความสามารถด้านวิศวกรรมยานยนต์

ด้านหน้าของ มิตซูบิชิ ไทรทัน โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมไฟตัดหมอกที่ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน มีรูปลักษณ์เข้มสะดุดตา และด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 700 มม. จึงช่วยลดความเสี่ยงที่ไฟหน้าและไฟตัดหมอกจะได้รับความเสียหายจากการขับขี่ฝ่าน้ำท่วมขัง หรือ ถูกหินกระเด็นใส่จากด้านหน้า

ภายในห้องโดยสารของ มิตซูบิชิ ไทรทัน มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และแข็งแกร่ง ที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากงานดีไซน์ของแผงควบคุมและช่องแอร์ ผู้ขับขี่ยังสัมผัสได้ถึงความประณีต หรูหรา จากวัสดุบุนุ่มระดับพรีเมียมที่มอบผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม พร้อมการเดินตะเข็บที่พิถีพิถันของคอนโซลกลาง ที่พักแขน และเบรกมือ



2. ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย

อีกหนึ่งคุณสมบัติของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ขับขี่จำนวนมาก ได้แก่ โครงสร้างห้องโดยสารนิรภัยแบบ RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่ได้ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์ที่ท้าทายต่างๆ จากหลายประเทศทั่วโลก ช่วยปกป้องผู้โดยสารด้วยโครงสร้างที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและทนทานต่อการเปลี่ยนรูปทรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น มิตซูบิชิ ไทรทัน มาพร้อมระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันที่สุดในระดับเดียวกัน ประกอบด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation) ทำการตรวจจับรถยนต์และผู้ใช้ทางเท้าข้างหน้า ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist) ช่วยป้องกันการชนรถคันอื่นขณะเปลี่ยนเลนด้วยการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ถ้ามีรถอยู่ด้านหลังหรือด้านข้าง ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert) ตรวจจับว่ามีรถยนต์กีดขวางขณะถอยหลังหรือไม่ และ ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (Ultrasonic Misacceleration Mitigation System) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเมื่อเหยียบคันเร่งเมื่อเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังจากช่องจอดโดยไม่ตั้งใจ อีกหนึ่งระบบความปลอดภัยอันทันสมัย ได้แก่ กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และเซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ


3. พร้อมลุยทุกอุปสรรคด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II

สมรรถนะแกร่งของ มิตซูบิชิ ไทรทัน มาพร้อมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวพร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Active Stability Traction Control) ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ส่งผลให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน มีสมรรถนะที่เหนือชั้นและพร้อมลุยทุกอุปสรรคด้วย 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่:

โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อเหมาะกับการขับขี่บนสภาพถนนปกติและช่วยประหยัดน้ำมัน โหมด 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control เสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถเมื่อต้องใช้ความเร็วบนสภาพเส้นทางที่เปียกลื่น โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง เหมาะสำหรับการขับขี่ฝ่าอุปสรรคเส้นทางขรุขระหรือผิวถนนที่เปียกลื่นโดยยังใช้ความเร็วได้ และ โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำโดยมีรวมทั้งระบบล็อกเฟืองท้ายอัตโนมัติที่ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายกลางควบคุมการกระจายกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อต่างๆ เพื่อการฝ่าลุยอุปสรรคได้อย่างเต็มขั้น และในโหมด 4LLc นี้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock


4. ตอบสนองทุกการขับขี่

มิตซูบิชิ ไทรทัน มีสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์ ไมเวค คลีนดีเซล 2.4 ลิตร แรงบิดสูงสุดที่ 430 นิวตันเมตร 181 แรงม้า ให้พละกำลังดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถกระบะในระดับเดียวกัน มาพร้อมกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยความประหยัดและความทนทาน มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถตอบสนองอัตราการเร่งแซงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมความนุ่มนวลขณะขับขี่และยังรองรับน้ำมันไบโอดีเซล บี 20 อีกด้วย


5. มั่นใจทุกการขับขี่

รถยนต์ทุกรุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มาพร้อมกับความมั่นใจทั้งในด้านคุณภาพ และค่าใช้จ่ายด้านบริการหลังการขายที่เหมาะสมภายใต้สโลแกน ‘เราดูแล คุณแค่ขับ’ ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าด้วยผู้จำหน่ายทั่วประเทศกว่า 240 แห่ง ด้วยการให้บริการที่ได้มาตรฐาน คุณภาพอะไหล่แท้ ที่พร้อมให้บริการด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและผ่านการฝึกอบรม ตลอดจนความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ

พร้อมกันนี้ลูกค้ายังจะได้รับแพ็คเกจบริการหลังการขาย ‘มิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ’ ประกอบด้วย ฟรีค่าบริการเช็คระยะ 5 ปี และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี โดยบริษัทฯ พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการหลังการขายเพิ่มขึ้นด้วยการมอบการรับประกัน 5 ปี และฟรีค่าแรงอีก 5 ปี ให้เป็นการรับประกันมาตรฐาน หรือ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยออฟชั่นพิเศษ โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ (Warranty Plus) นานสูงสุดรวม 7 ปี เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ไม่แพง และราคาขายต่อที่เหมาะสม



6. รางวัลการันตีความสำเร็จ

มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถคว้ารางวัล รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม และยังคงครองตำแหน่งรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อที่ได้รับรางวัลดังกล่าวมากที่สุดในเซกเมนต์จากการประกวดรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีที่จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเจ็ดรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 ที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับในปี 2564 นี้ ซึ่งครอบคลุมรถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย ทั้งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และคุณภาพ


7. ร่วมกันช่วยเหลือสังคมของพวกเรา

ลูกค้าสามารถเลือกซื้อรถกระบะที่มีโดดเด่นทั้งในด้านความแข็งแกร่ง สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เนื่องในโอกาสฉลองการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 60 ปี ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลูกค้าทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของเราในแบบที่ยั่งยืน ด้วยการซื้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน ‘สเปเชียล เอดิชั่น’ ‘รักกิจ เอดิชั่น’ และ ‘แพชชั่น เรด เอดิชั่น’ โดยบริษัทฯ จะบริจาคเงินจำนวน 2,000 บาทต่อคัน และมอบให้แก่องค์กรการกุศล 3 แห่ง ได้แก่ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ, มูลนิธิรามาธิบดีฯ และมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน



Mitsubishi Triton 2024: 7 เหตุผลที่ลูกค้าเลือกใช้ปิคอัพ Mitsubishi Triton อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/

7
ทำไมเราต้องรับประทานอาหารบำรุงสมอง ? ...เรามักจะคุ้นเคยกันว่าภาวะสมองเสื่อมคือเรื่องของคนสูงวัยที่จดจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ววัยรุ่น วัยทำงาน ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการหลงลืมได้ ซึ่งในทางทฤษฎีได้มีการอธิบายไว้ว่า เมื่อเราพยายามจดจำข้อมูลจำนวนมาก หรือพยายามป้อนรายละเอียดต่าง ๆ เข้าสมองให้เยอะที่สุด หากสมองรับไม่ไหว ก็อาจส่งผลทำให้ข้อมูลบางส่วนสูญหายไปในที่สุด ซึ่งมักพบได้ในผู้ที่ชอบทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เพราะไม่ได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างจริงจัง

ด้วยสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป หลายท่านอาจละเลยการนอนที่มีคุณภาพ รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะอาจคุ้นเคยกับความสะดวกสบายจากการรับประทานอาหารจานด่วน รวมทั้งความชื่นชอบการรับประทานอาหารและขนมที่คุณค่าทางโชนาการต่ำ จนลืมไปว่าประสิทธิภาพทางสมองและความจำคือสิ่งสำคัญของมนุษย์ทุกช่วงวัย

 
สำหรับ 15 อาหารบำรุงสมองที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว และสามารถหาซื้อได้ง่าย ดังนี้
 
   
1.  ข้าวกล้องงอก

    ในข้าวกล้องงอกอุดมไปด้วยสาร GABA (กาบา) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบำรุงสมอง และรักษาโรคทางระบบประสาทต่าง ๆ โดยสารชนิดนี้มีอยู่มากในข้าวกล้องงอกถึง 15 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับข้าวกล้องแบบปกติทั่วไป อีกทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันสมองถูกทำลาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตได้
   

2. ขนมปังโฮลวีต

    ขนมปังโฮลวีทเป็นหนึ่งในอาหารบำรุงสมอง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีจากคาร์โบไฮเดรต และมีน้ำตาลน้อยกว่าขนมปังแบบปกติ จึงสามารถรับประทานทดแทนข้าวได้ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยใยอาหารและจมูกข้าว ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยให้รู้สึกอิ่มเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงสมอง โดยช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และยังมีส่วนช่วยให้มีสมาธิดีขึ้นอีกด้วย
   

3. อาหารประเภทธัญพืช

    โดยเฉพาะธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น เมล็ดงา เมล็ดดอกทานตะวัน จะยังคงคุณภาพของวิตามินเอและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงสมองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมของโปรตีน โอเมก้า และเส้นใยอาหารที่มีคุณภาพ ดังนั้น ธัญพืชจึงเป็นอีกหนึ่งอาหารบำรุงสมองที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะการใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารมื้อเช้า หรือใช้หุงผสมกับข้าวกล้อง ก็จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในมื้ออาหารได้อีกรูปแบบหนึ่ง
   

4. เนื้อปลา

    เนื้อปลามีส่วนช่วยบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี ด้วยกรดไขมันและโอเมก้า 3 ซึ่งทำหน้าที่เสริมสร้างผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะปลาจากน้ำทะเลลึก เช่น ปลาทูน่า และปลาแซลมอน เป็นต้น
   

5. นมถั่วเหลือง

    นมถั่วเหลือง นอกจากจะมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินบีและเลซิติน ซึ่งเป็นสารบำรุงสมอง ช่วยดูแลการทำงานของระบบประสาทและความจำ ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ นมถั่วเหลืองจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาหารช่วยบำรุงสมองได้
   

6. โยเกิร์ต

    คือหนึ่งในอาหารบำรุงสมองที่เป็นผลผลิตจากนม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินบี 2 และวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเม็ดเลือด ระบบประสาท และเยื่อหุ้มเซลล์สมองให้มีความยืดหยุ่น ซึ่งพบได้มากในกรีกโยเกิร์ตหรือโยเกิร์ตธรรมชาติ ที่ไม่ผ่านกระบวนการแต่งกลิ่นและรสชาติมากนัก
   

7. ผักปวยเล้ง

    จัดเป็นราชาแห่งผัก ด้วยเพราะคุณประโยชน์ของผักปวยเล้ง ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีเอนไซม์ช่วยเสริมความแข็งแรงของเซลล์ประสาท เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ โดยนักวิจัยจาก Brigham and Women’s Hospital จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ระบุถึงประโยชน์ของผักชนิดนี้ว่ามีส่วนช่วยในการชะลออาการสมองเสื่อมในคนสูงอายุได้
   

8. แปะก๊วย

    พืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคสมองเสื่อม หรืออาการหลงลืมที่เกิดจากความเสื่อมถอยของสมอง ซึ่งนอกจากประโยชน์ด้านการชะลอความเสื่อมทางสมองแล้ว แปะก๊วยยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถภาพการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี
   

9. ผักโขม

    ผักโขม  เป็นอาหารบำรุงสมองที่มีเอนไซม์ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์สมองและปลายเซลล์ประสาทจำนวนมาก นอกจากนั้น ผักโขมยังอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่เป็นประโยชน์ต่อการช่วยปกป้องความจำ คอยทำหน้าที่รักษาสมดุลน้ำในร่างกาย
   

10. แครอท

    แครอทมีสารลูทอีโอลิน (Luteolin) ช่วยลดความบกพร่องด้านความจำ หรือการอักเสบของสมองที่เกิดขึ้น ทั้งจากการที่อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือจากปฏิกิริยาที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของสมอง อันมีสาเหตุมากจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมหรือมีคุณภาพไม่เพียงพอ
   

11. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

    เป็นอาหารบำรุงสมองที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งนอกจากสรรพคุณทางด้านความงามและผิวพรรณแล้ว ผลไม้จำพวกเบอร์รียังมีส่วนช่วยป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น ส่งเสริมประสิทธิภาพการเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทในส่วนของฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) โดยตรง ช่วยบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี
   

12. แอปเปิ้ล

    แอปเปิ้ลมีสารอะซีทิลโคลีน (Acetylcholine) ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสารสื่อประสาท ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบความจำและการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การรับประทานแอปเปิ้ลให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลูก จึงมีส่วนช่วยในการปกป้องความทรงจำทั้งในระยะยาวและระยะสั้นได้
   

13. ไข่

    ไข่ไก่เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน โดยได้มีการค้นพบสารที่มีชื่อว่า โคลีน (Choline) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาการทำงานของสมอง อีกทั้งยังเป็นสารจำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมองใหม่
   

14. อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean diet)

    หรือการใช้น้ำมันมะกอกเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักในแต่ละมื้ออาหาร เพราะน้ำมันสกัดจากพืชจะมีโอเมก้า 3 ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อสมอง จึงช่วยลดอาการสมองเสื่อมตามวัย หรือชะลอภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยได้ ลองแทรกเมนูอาหารแต่ละสัปดาห์ให้เป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียนดูบ้าง นอกจากจะได้ประโยชน์แล้ว ยังช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ให้อาหารแต่ละมื้อได้ดีอย่างแน่นอน
   

15. ช็อกโกแลต

    นับเป็นอีกหนึ่งอาหารช่วยบำรุงสมอง โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลต ที่มีงานวิจัยจาก Loma Linda University รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่าดาร์กช็อกโกแลตสามารถช่วยบำรุงสมอง เพิ่มการจดจำ และการเรียนรู้ได้ อีกทั้งยังช่วยลดภาวะความเครียดได้เป็นอย่างดี และนอกจากนั้น หากในดาร์กช็อกโกแลตมีส่วนผสมของพืชตระกูลถั่วที่เป็นแหล่งโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันดี เช่น อัลมอนด์ ฮาเซลนัท วอลนัท และแมคคาเมีย ก็ยิ่งมีส่วนช่วยเพิ่มคุณภาพความจำและกระบวนการคิด ด้วยวิตามินอีที่มีอยู่ในพืชตระกูลถั่วอีกด้วย

     



อาหารบำรุงสมอง เสริมความจำ ป้องกันสมองเสื่อม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

8
หากคุณกำลังมองหา บริการรถกระบะขนย้ายปทุมธานี ที่คุ้มค่าและสะดวกสบาย คุณอยู่ในที่ที่ถูกต้อง! มีบริการรถกระบะขนย้ายของที่ปทุมธานีที่จะช่วยให้คุณขนย้ายของได้อย่างง่ายดาย คุ้มค่า และปลอดภัย เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการในบริการขนย้ายของที่ปทุมธานีที่ทันสมัย อ่านต่อเพื่อค้นหาข้อมูลและเคล็ดลับในการเลือกบริการรถกระบะขนย้ายของเรา!รถกระบะรับจ้างตู้ทึบ

บริการรถกระบะขนย้ายที่ปทุมธานี
บริการรถกระบะขนย้ายของเราที่ปทุมธานีเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและเร็วที่สุดในพื้นที่นี้ ไม่ว่าคุณจะต้องการย้ายบ้านหรือขนสินค้าทางธุรกิจ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการให้คุณเสมอ บริการรถกระบะขนย้ายของเรามาพร้อมกับความรวดเร็วในการออกเดินทางและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร คุณจะได้รับบริการที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายของในปทุมธานีหรือข้ามพื้นที่ เรามีประสบการณ์และความเข้าใจในความต้องการของคุณทุกประเภท

ความคุ้มค่าของบริการรถกระบะ
เมื่อคุณเลือกบริการรถกระบะขนย้ายของเรา คุณกำลังทำการลงทุนที่ดีในความสะดวกสบายและความคุ้มค่า ไม่ว่าคุณจะขนย้ายของในปทุมธานีหรือที่อื่น บริการของเราจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนย้ายของ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเกินไป เพราะเรามีอัตราค่าบริการที่เหมาะสมและคุ้มค่า อย่าพลาดโปรโมชั่นและส่วนลดที่เรามีให้คุณอีกด้วย!

ทริคเลือกรถกระบะขนย้าย
ความสำเร็จในการขนย้ายของขึ้นอยู่กับการเลือกบริการรถกระบะขนย้ายที่เหมาะสม ดังนั้น อ่านข้อมูลเหล่านี้เพื่อทราบวิธีการเลือก รถกระบะขนย้ายปทุมธานี อย่างถูกต้อง
การสำรวจและเปรียบเทียบบริการ : ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ เราขอแนะนำให้คุณสำรวจและเปรียบเทียบบริการรถกระบะขนย้ายที่มีอยู่ในตลาด ให้ครอบคลุมทุกด้าน อย่าเพียงแต่ดูราคาเพียงอย่างเดียว แต่ตรวจสอบความคุ้มค่าทั้งหมด เช่น ความรวดเร็วในการเดินทาง ความปลอดภัย และบริการเสริมที่มี
การรับรู้ความต้องการส่วนบุคคล : ความต้องการของคุณอาจแตกต่างกันไปกับคนอื่น คุณต้องการให้บริการรถกระบะขนย้ายของที่ปทุมธานีเป็นไปตามความต้องการส่วนบุคคลของคุณ เช่น การขนย้ายของมากๆ หรือขนย้ายของที่มีความบอบช้ำ เรามีรถกระบะที่เหมาะกับทุกสถานการณ์
การค้นหาความคุ้มค่า : ไม่ว่าคุณจะต้องการบริการรถกระบะขนย้ายในปทุมธานีในระยะสั้นหรือระยะยาว คุณควรค้นหาความคุ้มค่าที่มีให้มากที่สุด ด้วยโปรโมชั่นและส่วนลดที่เรามี คุณจะได้รับคุ้มค่าที่สุดในการขนย้ายของของคุณ

บริการรถกระบะขนย้ายของปทุมธานี
เรามีบริการรถกระบะขนย้ายของที่ปทุมธานีที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัดนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ในเมืองหลวงหรือพื้นที่รอบนอก เราสามารถเดินทางมาให้บริการคุณได้ รถกระบะขนย้ายของเรามีความเป็นมืออาชีพและรู้ดีถึงพื้นที่ในปทุมธานี ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าของของคุณจะถูกขนย้ายไปยังที่หมายอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว
ความปลอดภัยของบริการรถกระบะปทุมธานี

เราใส่ใจความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอย่างสูง บริการรถกระบะขนย้ายของเราปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด รถกระบะขนย้ายของเราได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและถูกตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่ามันอยู่ในสภาพดีเพื่อความปลอดภัยของของคุณ


ราคาค่าบริการรถกระบะขนย้ายปทุมธานี
เราเข้าใจว่าราคาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ และเรามุ่งเน้นที่ความคุ้มค่า ด้วยความสร้างสรรค์ของเรา เราสามารถให้บริการที่คุ้มค่าและมีคุณภาพโดยไม่ต้องทำให้กระเป๋าของคุณเบาลง ค่าบริการรถกระบะขนย้ายของเราเป็นอย่างเป็นที่สอง และคุณยังสามารถใช้โปรโมชั่นและส่วนลดเพื่อประหยัดเงินได้อีกด้วย


วิธีการจองบริการรถกระบะขนย้าย
การจองบริการรถกระบะขนย้ายกับเราเป็นเรื่องง่ายดาย คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มการจองของเราออนไลน์หรือติดต่อเราโดยตรง เราจะดูแลคุณตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงการส่งของถึงที่หมาย คุณจะได้รับบริการที่รวดเร็วและปลอดภัยในทุกขั้นตอน

บริการเสริมที่คุ้มค่า
เราไม่ให้บริการเพียงแค่การขนย้ายของ แต่ยังมีบริการเสริมที่คุ้มค่าเพิ่มเติมให้คุณ เช่น การชำระเงินออนไลน์ และการติดตามสถานะของสินค้าของคุณ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าของของคุณจะถูกดูแลอย่างดีในการขนย้าย

รีวิวบริการรถกระบะขนย้ายปทุมธานี
อ่านรีวิวจากลูกค้าที่มีประสบการณ์จริงกับบริการรถกระบะขนย้ายของเรา รับข้อมูลจริงๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การขนย้ายของที่ปทุมธานีกับเราและทำให้คุณมั่นใจในการเลือกบริการของเรา

ข้อมูลบริการรถกระบะขนย้ายปทุมธานี
เพื่อให้คุณมีข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับบริการรถกระบะขนย้ายของที่ปทุมธานี คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือตอบคำถามที่คุณอาจมี เรายินดีให้คำปรึกษาและข้อมูลอย่างเต็มไปด้วยความยินดี

บริการรถกระบะขนย้ายปทุมธานี คือทางเลือกที่คุ้มค่าและปลอดภัยสำหรับการขนย้ายของของคุณ ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้านหรือขนสินค้าทางธุรกิจ เรามีบริการที่ครอบคลุมทุกประเภท และให้คุณความคุ้มค่าและความรวดเร็วในการขนย้าย อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ขนย้ายของของคุณเท่านั้น เราเป็นพันธมิตรที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นในการเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดายและไม่มีปัญหา คุณสามารถเช่าบริการรถกระบะขนย้ายของเราได้ตลอดเวลา และแน่นอนว่าของของคุณจะถูกขนย้ายไปยังที่หมายอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย เราเป็นเพื่อนคู่คิดที่คุณสามารถพึ่งได้ในทุกสถานการณ์ของการขนย้ายของของคุณ


สุดคุ้ม! บริการรถกระบะรับจ้าง ขนย้ายของปทุมธานี  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-pickup.com/

9
ปกติคุณเก็บพวกไม้กวาด ไม้ถูพื้น หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านไว้ที่ไหนกัน ใช่ข้าง ๆ ตู้เย็นเหมือนกันหรือเปล่า หรือบางบ้านก็อาจเก็บไว้ในห้องเก็บของ แต่อุปกรณ์พวกนี้ก็จะรก ๆ อยู่ในห้องเก็บของนั่นแหละ เพราะของก็ต้องเก็บ อุปกรณ์ทำความสะอาดก็ต้องเก็บ มี 5 ที่ลับ เอาไว้แอบอุปกรณ์ทำความสะอาดมาแนะนำ บางทีอาจมีพื้นที่ที่คุณไม่ได้นึกถึงก็ได้ ไปดูกันเลย


1. แอบเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดในบานสไลด์ตามซอกหลืบ

          สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ว่างข้างตู้เย็น หรือมีพื้นที่เป็นซอกหลืบลึก ๆ แคบ ๆ เข้าไป อย่าปล่อยให้พื้นที่ตรงนี้เสียเปล่าไป เราสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้มาแอบเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านได้สบาย ๆ โดยทำเป็นบานสไลด์แอบไว้ในซอกหลืบนั้น เวลาจะใช้งานก็ดึงออกมาได้ แบบนี้ใช้พื้นที่ไม่มาก แต่เก็บของได้เยอะ ได้ครบครันและเป็นระเบียบดีจริง ๆ


2. แอบเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดข้างตู้หรือเก็บไว้ที่กำแพง

          หากตู้ build-in ยังเหลือพื้นที่อีกนิดหน่อย เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ ให้ต่อพื้นที่ตรงส่วนนี้เป็นตู้เพิ่ม เอาไว้แอบซ่อนอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ หรือถ้าไม่ต่อเป็นตู้เพิ่ม ก็สามารถหาซื้อแผงจัดเก็บอุปกรณ์ หรือตะขอที่เก็บไม้กวาดที่มีขายตามท้องตลาดมาติดไว้ที่ข้างตู้ หรือจะจัดเก็บไว้ที่กำแพง ก็สามารถจัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านให้เป็นระเบียบได้อีกวิธี


3. แอบแขวนอุปกรณ์ทำความสะอาดที่หลังประตูห้องเก็บของ

          แม้ห้องเก็บของจะเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย เพื่อให้อุปกรณ์ทำความสะอาดถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ง่ายต่อการหยิบใช้งาน คุณสามารถใช้ตะกร้าแขวน หรือตะขอสำหรับแขวนและจัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ และเพื่อให้พื้นที่ไม่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ประตูห้องเก็บของก็เป็นอีกที่ที่สามารถใช้จัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน


4. แอบอุปกรณ์ทำความสะอาดในตู้ Build-in

          คนที่กำลังสร้างบ้านใหม่ อาจมีการกั้นพื้นที่เอาไว้ build-in ตู้สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ แบบนี้ก็เป็นวิธีที่ดีอีก 1 วิธี เราจะได้มีพื้นที่เก็บอย่างเป็นสัดเป็นส่วน อาจติดตั้งตะแกรงลิ้นชักไว้เก็บของ เพื่อให้วางของได้ตามประเภทอย่างเป็นระเบียบ และง่ายกับการหยิบใช้งาน หรือจะติดตั้งตะแกรงที่ประตูตู้ เอาไว้แขวนอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงสายเครื่องดูดฝุ่น ก็ดูเป็นระเบียบดี และอาจแบ่งช่องสำหรับไว้วางโต๊ะรองรีดก็ยังได้


5. แอบในตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด

          ตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกดี หาซื้อที่เหมาะกับการใช้งาน และเหมาะกับขนาดพื้นที่ที่บ้าน แค่นี้คุณก็มีพื้นที่เอาไว้แอบอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้ว





บริการทำความสะอาด: 5 ที่ลับ เอาไว้แอบอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/soft-services/

10
โพสฟรี / doctor at home: ฝ้า (Melasma/Chloasma)
« เมื่อ: 05พฤษภาคม2024, 21:46:04pm »
ฝ้า เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยมากโรคหนึ่ง

พบมากในช่วงอายุ 30-40 ปีขึ้นไป พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า

ฝ้าแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ (1) ฝ้าตื้น (epidermal melasma) เป็นฝ้าที่อยู่ในผิวหนังชั้นนอกหรือหนังกำพร้า มีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลเข้ม มีขอบชัด (2) ฝ้าลึก (dermal melasma) เป็นฝ้าที่อยู่ในชั้นลึกหรือหนังแท้ มีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีฟ้าอมเทา มีขอบไม่ชัด (3) ฝ้าผสม (mixed melasma) คือมีทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึกผสมกัน ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด


สาเหตุ

เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) ในชั้นหนังกำพร้าหรือชั้นหนังแท้ถูกกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสี (pigment) มากกว่าปกติ เชื่อว่าเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ที่สำคัญได้แก่

    ฮอร์โมนเพศ พบว่าฝ้ามักเกิดในหญิงขณะตั้งครรภ์ระยะไตรมาสที่ 2 และ 3 หรือกินยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนทดแทนสำหรับหญิงวัยหมดประจำเดือน และผื่นจะจางลงหลังคลอดหรือหยุดยา
    แสงอัลตราไวโอเลต พบว่าผู้ที่ถูกแสงแดดบ่อย ๆ มีโอกาสเป็นฝ้าได้ง่าย
    กรรมพันธุ์ พบว่ามากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ป่วยมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว
    การใช้ยา อาทิ ยากันชัก (เช่น เฟนิโทอิน, clobazam), ยาขับปัสสาวะ, ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์, ยาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy drugs) เป็นต้น
    ภาวะขาดไทรอยด์
    การแพ้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารให้กลิ่นหอมหรือสี
    ความเครียดทางจิตใจก็อาจกระตุ้นให้ฝ้ากำเริบในผู้ป่วยบางรายได้

อาการ

มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้ม มีขอบชัด หรือปื้นสีน้ำตาลอ่อนหรือฟ้าอมเทา มีขอบไม่ชัด บางรายอาจขึ้นเป็นผื่นเล็ก ๆ คล้ายกระ

ส่วนใหญ่จะมีรอยโรคที่บริเวณใบหน้าส่วนที่ถูกแสงแดดหรือแสงไฟฟลูออเรสเซนต์มาก ๆ ได้แก่ หน้าผาก โหนกแก้ม คาง ดั้งจมูก บริเวณร่องเหนือริมฝีปากบน มักจะเกิดขึ้นทีละน้อยอย่างช้า ๆ โดยมีรอยโรคเหมือน ๆ กันและขนาดที่เท่า ๆ กันขึ้นที่ใบหน้าทั้งฝั่งซ้ายและขวา

บางรายอาจพบที่คอ ไหล่ ต้นแขน และปลายแขนส่วนที่ถูกแสงแดดหรือแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากทำให้รู้สึกไม่สวยงาม


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

บางรายแพทย์อาจใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Wood's lamp ส่องตรวจดูว่าเป็นฝ้าชนิดตื้นหรือลึก และช่วยแยกออกจากโรคติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา

หากสงสัยว่าเป็นโรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ แพทย์จะทำการตัดเนื้อเยื่อผิวหนังไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ และหากสงสัยว่าเกิดจากภาวะขาดไทรอยด์ แพทย์จะทำการตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะตรวจหาสาเหตุและแก้ไขสาเหตุที่พบ แนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วย และให้การรักษาฝ้า ดังนี้
 

1. ใช้ยาลอกฝ้า ได้แก่ ไฮโดรควิโนน (hydroquinone) ชนิด 2-4% ทาวันละ 2 ครั้ง จะช่วยลดการสร้างเม็ดสี ทำให้ฝ้าจางลงได้ ยานี้อาจทำให้แพ้ได้ จึงควรทดสอบโดยทาที่แขน แล้วทิ้งไว้ 2-3 วัน (ห้ามล้างออก) ดูว่ามีผื่นแดงหรือไม่ ถ้ามีก็ห้ามใช้

ยานี้อาจผสมกับกรดเรติโนอิก ชนิด 0.01-0.05% และสเตียรอยด์ ทำเป็นครีมยี่ห้อต่าง ๆ

2. ใช้ยากันแดด ได้แก่ พาบา (PABA ซึ่งย่อมาจาก para-aminobenzoic acid) ทาตอนเช้า หรือก่อนออกกลางแดด หรือถูกแสงไฟแรง ๆ ควรใช้ชนิดที่มีความสามารถในการกรองแสง (sun protective factor/SPF) มากกว่า 30 ขึ้นไป ยานี้อาจทำให้แสบตา แสบจมูก เป็นสิว หรือแพ้ได้

โดยทั่วไปมักจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าอาการจะดีขึ้น และจะต้องใช้ยากันแดดไปเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการกลับเป็นฝ้าอีก

บางกรณีแพทย์อาจให้การรักษาด้วยการลอกหน้าด้วยสารเคมี (chemical peeling) เช่น กรดไตรคลอโรอะซีติกชนิด 30% หรือกรดไกลโคลิก (glycolic acid) 50% ซึ่งต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวหนังเป็นสีดำคล้ำจากการอักเสบ การติดเชื้อ แผลเป็น เป็นต้น

บางรายแพทย์อาจให้การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ ซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หลังจากทำแล้วผิวหนังบริเวณนั้นจะบางลง เมื่อถูกแสงแดดก็อาจทำให้เป็นฝ้าขึ้นมาได้อีก

ผลการรักษา โรคนี้มักเป็นเรื้อรัง การรักษาและการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น (เช่น แสงแดด ยาเม็ดคุมกำเนิด ความเครียด) ช่วยให้ฝ้าทุเลาได้ดี แต่เมื่อหยุดยาก็มักกำเริบใหม่ ยกเว้นฝ้าที่เกิดในหญิงขณะตั้งครรภ์ หรือกินยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนทดแทน หลังคลอดหรือหยุดยา รอยฝ้าจะจางลงจนหายเป็นปกติ

สำหรับฝ้าตื้น (ในชั้นหนังกำพร้า) มักจะรักษาได้ผลดี แต่ฝ้าลึก (ในชั้นหนังแท้) การใช้ยาอาจได้ผลช้าหรือไม่ได้ผลเท่าที่ควร

การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นฝ้า ควรดูแลตนเองดังนี้

    ใช้ยาทาลอกฝ้าตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
    หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดหรืออยู่ในที่กลางแจ้ง และการอยู่ในที่ที่มีแสงไฟฟลูออเรสเซนต์สว่างมาก
    ถ้าจำเป็นต้องออกกลางแดด ควรใช้เครื่องป้องกัน (เช่น ร่ม หมวก หน้ากาก) ที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลต ใส่เสื้อสีขาวแทนเสื้อสีเข้ม เพื่อลดการดูดกลืนแสงอัลตราไวโอเลต
    ใช้ยากันแดดทาตอนเช้าหรือก่อนออกกลางแดด ควรใช้ชนิดที่มีความสามารถในการกรองแสง (sun protective factor/SPF) มากกว่า 30 ขึ้นไป
    หลีกเลี่ยงการกินยาคุมกำเนิด ถ้าจำเป็นใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น
    หากสงสัยรอยฝ้าเกิดจากเครื่องสำอาง ให้หยุดใช้เครื่องสำอาง
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด


ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ใช้ยาลอกฝ้า 2-3 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    ใช้ยาลอกฝ้าแล้วมีอาการผื่นคัน รอยแดง รอยด่าง หรือหน้าขาววอก
    มีอาการหนังตาบวม เส้นผมบางและหักง่าย ผิวหนังหยาบแห้งและเย็น ขี้หนาว เฉื่อยชา คิดช้า หรือสงสัยมีภาวะขาดไทรอยด์
    สงสัยว่ารอยฝ้าเกิดจากการใช้ยาบางชนิด
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดหรืออยู่ในที่กลางแจ้ง และการอยู่ในที่ที่มีแสงไฟฟลูออเรสเซนต์สว่างมาก
    ถ้าจำเป็นต้องออกกลางแดด ควรใช้เครื่องป้องกัน (เช่น ร่ม หมวก หน้ากาก) ที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลต ใส่เสื้อสีขาวแทนเสื้อสีเข้ม เพื่อลดการดูดกลืนแสงอัลตราไวโอเลต
    ใช้ยากันแดดทาตอนเช้าหรือก่อนออกกลางแดด ควรใช้ชนิดที่มีความสามารถในการกรองแสง (sun protective factor/SPF) มากกว่า 30 ขึ้นไป
    หลีกเลี่ยงการกินยาคุมกำเนิด ถ้าจำเป็นใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น

ข้อแนะนำ

1. ฝ้าที่เกิดจากการตั้งครรภ์ หรือกินยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนทดแทน อาจหายได้เองหลังคลอดหรือหลังหยุดใช้ยา อาจใช้เวลาเป็น 2 เท่าของระยะเวลาที่กินยา เช่น ถ้ากินยาอยู่นาน 1 ปี ก็อาจใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าฝ้าจะหาย

2. ยารักษาฝ้าบางชนิด อาจมีสารเคมีที่ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocytes) ทำให้หน้าขาววอก หรือเป็นรอยแดงหรือรอยด่างอย่างน่าเกลียด ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่าซื้อยาลอกฝ้ามาทาเองอย่างส่งเดช โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่โฆษณาว่าทำให้หายได้ทันที

ยาลอกฝ้าที่เข้าสารปรอท อาจทำให้ฝ้าจางลง แต่อาจมีอันตรายจากการสะสมปรอทที่ผิวหนังและในร่างกายได้

3. ในการรักษาฝ้า อาจต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือน หรืออาจไม่มีทางรักษาให้หายขาด เพียงแต่ใช้ยากันแดดและยาลอกฝ้าทาไปเรื่อย ๆ ถ้าหยุดยาอาจกำเริบได้ใหม่

ฝ้าที่อยู่ตื้น ๆ (สีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม) มักจะรักษาได้ผลดี แต่ฝ้าที่อยู่ลึก (สีน้ำตาลเทาหรือสีดำ) อาจได้ผลช้าหรือไม่ได้ผลเลย

4. การลอกหน้า ขัดผิวตามร้านเสริมสวย นอกจากจะไม่ช่วยในการรักษาฝ้าแล้ว ยังอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น การแพ้สัมผัส จึงไม่แนะนำให้ไปลอกหน้า ขัดผิว

5. อาการผื่นหรือปื้นแดง ๆ คล้ำ ๆ ขึ้นที่ใบหน้า นอกจากฝ้าแล้วยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เอสแอลแอล ซึ่งจะมีผื่นแดงขึ้นที่แก้ม 2 ข้าง (คล้ายปีกผีเสื้อ) เวลาถูกแดดร่วมกับอาการอื่น ๆ โรคแอดดิสัน ซึ่งผิวหนังจะมีสีดำคล้ำในบริเวณที่มีรอยถูไถตามส่วนต่าง ๆ รวมทั้งที่ใบหน้า เป็นต้น ดังนั้นถ้าให้การรักษาฝ้าไม่ได้ผล หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้ อ่อนเพลีย เป็นลม ปวดข้อ ผมร่วง เป็นต้น ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด



doctor at home: ฝ้า (Melasma/Chloasma)  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com

11
โพสฟรี / มือถือ Huawei หัวเหว่ย Huawei-Mate X3 (12GB/256GB)
« เมื่อ: 04พฤษภาคม2024, 20:16:35pm »
หัวเหว่ย Huawei-Mate X3 (12GB/256GB)
Huawei Mate X3 หน้าจอ Foldable OLED ขนาด 7.85 นิ้ว กล้องหลัง 3 เลนส์ ความจุแบตเตอรี่ 4,800 mAh รองรับชาร์จไว 66W รองรับชาร์จไร้สาย 50W

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น                 หัวเหว่ย Huawei-Mate X3 (12GB/256GB)
   ราคากลาง                -
   จำนวนซิม               2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์              จอสัมผัส
   สี                        Gold, White, Black, Green(Dark Green), Violet

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 34, 38, 39, 40, 41)

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 156.9 x กว้าง 141.5 x หนา 5.3 มม., น้ำหนัก 239 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 4,800 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                    จอสัมผัส (Foldable OLED)
   ความละเอียด             7.85 นิ้ว, 426 ppi, 2,224 x 2,496 px

   รายละเอียดอื่น
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 (China), EMUI 13.1 (Europe), no Google Play Services
ประมวลผลชิปเซ็ต Qualcomm SM8475 Snapdragon 8+ Gen 1 4G
กล้องหลัง 3 เลนส์ เลนส์หลัก 50 MP, f/1.8 + เลนส์ periscope telephoto 12 MP, f/3.4 + เลนส์ ultrawide 13 MP, f/2.2
มีระบบเซนเซอร์ Fingerprint (side-mounted), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, altimeter, color spectrum
รองรับชาร์จไว 66W
รองรับชาร์จไร้สาย 50W

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                 กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (8 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                             Auto Focus, Flash

ปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)             Octa-core (1x3.19 GHz Cortex-X2 & 3x2.75 GHz Cortex-A710 & 4x2.0 GHz Cortex-A510)
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)     Adreno 730
   หน่วยความจำ (RAM)                12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                 Infrared, USB(Type-C 3.1, DisplayPort 1.2, OTG), Bluetooth(5.2, A2DP, LE), NFC, Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct)
   ระบบรับส่งข้อความ                   SMS, MMS, EMAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต              3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                           GPS (L1+L5), GLONASS (B1I+B1c+B2a), BDS (B1I+B1c+B2a), GALILEO (E1+E5a), QZSS (L1+L5), NavIC

มือถือ Huawei หัวเหว่ย Huawei-Mate X3 (12GB/256GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/huawei/

12
โพสฟรี / ความสำคัญของการ จัดฟัน
« เมื่อ: 03พฤษภาคม2024, 15:32:25pm »
จัดฟัน ดัดฟัน ถือว่าเป็นทันตกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือ ทันตกรรมจัดฟัน จะเรียกได้ว่าเป็นสาขาหนึ่งของงานทันตกรรม ซึ่งจะช่วยแก้ไขขากรรไกร ที่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง และการแก้ไขรูปแบบของ ฟัน ที่ไม่สวยงาม ให้สวยงาม และเรียงตัวกันเป็นระเบียบ ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้ประโยชน์จากการบดเคี้ยวอาหาร และการออกเสียงพูด ได้อย่างดียิ่งขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของการจัดเรียงฟัน ขากรรไกรที่ผิดปกติ รูปร่างฟันที่ผิดปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การขบเคี้ยวอาหาร การทำความสะอาดที่ยากลำบาก มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียฟันก่อนวัยอันควรเนื่องมาจากฟันผุและโรคเหงือก การพูด การออกเสียง ที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสาเหตุหนึ่ง ก็อาจจะมีจากการกดทับของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้มีอาการปวดขากรรไกร คอ บ่า ไหล่ หลัง ปวดศีรษะ บุคลิกภาพเสีย การจัดฟัน จึงเป็นอีกหนึ่งทางออก ให้อาการผิดปกติเหล่านั้น ได้กลับคืนมาสู่สภาวะที่ปกติ ของขากรรไกร และการจัดเรียงตัวของฟันที่สวยงาม ได้ใช้ประโยชน์จากฟัน และเป็นการเสริมบุคลิก และความมั่นใจ ในการใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


ทันตแพทย์ จะตรวจความผิดปกติของฟันและขากรรไกร ความผิดปกติต่างๆ ที่ควรจะได้รับการ จัดฟัน ดัดฟัน ได้แก่

1.ฟันบน และฟันล่าง ยื่นออกมาผิดปกติ
2.ฟันห่าง ช่องว่างระหว่างฟันห่างกันผิดปกติ
3.ฟันสบเปิด คือมีช่องว่างระหว่างฟันบนกับฟันล่าง ผิดปกติ
4.ฟันกัดเบี้ยว คือ จุดรวมของฟันบนกับฟันล่างไม่ตรงกัน ผิดปกติ
5.ฟันซ้อน ที่งอกมาเกินกว่าฟันปกติ
6.ฟันกัดคร่อม ไม่ตรงกัน นั่นคือเวลาขบฟัน ฟันบนกับฟันล่าง ไม่ตรงกัน ส่งผลต่อการขบเคี้ยว ฟันไขว้กันไปมา


แนวทางการรักษาด้วยการ จัดฟัน ดัดฟัน

การจัดฟัน ดัดฟัน เป็นการช่วยจัดระเบียบของกล้ามเนื้อ และขากรรไกร ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ซึ่งแนวทางการรักษา ก็จะมีแบบถอดออกได้ และแบบติดถาวร ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหา และทันตแพทย์ ผู้ตรวจ จะเป็นผู้วางแผนในการรักษา ด้วยการ จัดฟัน ดัดฟัน ในปัจจุบันนี้ มีหลากหลายรูปแบบของการรักษา อาทิเช่น

1.เหล็กดัดฟัน โดยการยึดติดฟัน ด้วย ยาง ลวด หรือเหล็ก เป็นตัวยึดต่ออุปกรณ์ เหล็กจะเชื่อมต่อติดกับด้านหน้าของฟัน เส้นลวด จะยึดติดกับยาง ดึงลวดให้ตึง ให้เคลื่อนฟันไปตำแหน่งที่ถูกต้อง ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนเป็นระยะเวลาต่างๆ ตามที่ทันตแพทย์จะนัดเข้ามา
2.จัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่ไม่มีลวด และ เหล็ก จะมองไม่เห็นเวลาสวมใส่ และถอดออกได้ เวลารับประทานอาหาร
3.รีเทนเนอร์ เป็นการป้องกันการเคลื่อนที่ของฟัน ให้กลับไปอยู่ที่ตำแหน่งเดิม



ความสำคัญของการ จัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

13
สำหรับคนทำงานในญี่ปุ่น การนัดดื่มสังสรรค์เป็นหนึ่งในวิธีการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน แลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ และเป็นอีกวิธีที่คนญี่ปุ่นคิดว่าช่วยผ่อนคลายเครียดได้ดี อย่างไรก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปก็ก่อให้เกิดอาการเมาค้างได้ มารู้สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเมาค้าง วิธีการป้องกัน และอาหารและเครื่องดื่มอะไรบ้างที่ช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้ดีกัน

สาเหตุของการเมาค้าง

การเมาค้างมีสาเหตุร่วมกันดังนี้คือ

1. ตับไม่สามารถสลายแอลกอฮอล์ปริมาณมากที่ดื่มเข้าไป ทำให้เกิดการสะสมของสารอะซีตัลดีไฮด์ (Acetaldehyde) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ใจสั่น และปวดหัว

2. ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำจากการที่ต้องปัสสาวะบ่อยๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว คอแห้ง และใจสั่น

3. แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปในปริมาณมากทำให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้องร่วมด้วย


วิธีการป้องกันอาการเมาค้าง

หลักสำคัญของการป้องกันอาการเมาค้าง คือ

ป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
การที่ร่างกายขาดน้ำจะทำให้เกิดการสะสมของอะซีตัลดีไฮด์ซึ่งเป็นตัวการให้เกิดอาการเมาค้าง วิธีการป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำทำได้โดยการดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิห้องเข้าไปประมาณ 1  แก้วก่อนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหมั่นดื่มน้ำในขณะที่กำลังดื่มและหลังการดื่ม การดื่มน้ำจะช่วยป้องกันไม่ให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตับทำงานเพื่อสลายแอลกอฮอล์ได้ดีขึ้น

ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่ท้องว่าง
การดื่มในขณะที่ท้องว่างจะทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้เกิดการสะสมของสารอะซีตัลดีไฮด์ในร่างกาย อีกทั้งแอลกอฮอล์จะไปทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อเมือกในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเมาค้างที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นก่อนการดื่มแอลกอฮอล์ควรหาอาหารรับประทานรองท้องก่อน


อาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยบรรเทาให้อาการเมาค้างดีขึ้น

อาหารและเครื่องดื่มที่หาและเตรียมได้ง่ายในช่วงที่มีอาการเมาค้างที่ทรมานได้แก่

ส้มมิคัง (Mandarin orange, みかん)
ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเสริมการสลายสารอะซีตัลอัลดีไฮด์ และยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น บรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ดี หากไม่มีส้มมิคังก็สามารถหาส้มชนิดอื่นรับประทานได้

กาแฟ
สารแทนนินที่มีมากในกาแฟเป็นสารโพลีฟีนอลชนิดที่จับกับอะซีตัลดีไฮด์และขับออกทางปัสสาวะ คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยลดการขยายตัวของหลอดเลือดที่มีสาเหตุมาจากสารอะซีตัลดีไฮด์ ส่งผลในการลดอาการปวดหัว อย่างไรก็ดี การดื่มกาแฟเพื่อช่วยบรรเทาอาการเมาค้างมีข้อควรระวัง คือ ไม่ดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไป เพราะกรดคลอโรจีนิกในกาแฟกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาการปวดมวนท้องเพิ่มขึ้น

ซุปหอยชิจิมิ
หอยชิจิมิ (Shijimi, しじみ) เป็นหอยน้ำจืดที่คนญี่ปุ่นนำมารับประทานในชีวิตประจำวัน โดยมักต้มในซุปมิโซะ หอยชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดอะมิโนแอล-ออร์นิธีนและทอรีน ซึ่งมีสรรพคุณในการเสริมสร้างความแข็งแรงของตับและลดอาการเมาค้างอย่างได้ผลดี

หากมีปัญหาเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์แล้วเกิดอาการเมาค้างก็ลองนำคำแนะนำไปใช้ดู ทั้งนี้ทั้งนั้นการดื่มอย่างมีสติและเตรียมพร้อมจะทำให้เราไม่รู้สึกทรมานจากการเมาค้าง


วิธีแก้แฮงค์ ส้มมิคังแก้เมาค้างได้!? มาดูวิธีป้องกันและบรรเทาอาการเมาค้างของคนญี่ปุ่นกัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

14
ปัญหาของผู้ที่เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่ที่หลายคนมักจะต้องพบเจอนั่นก็คือ ในเรื่องของการพูด การออกเสียง ซึ่งอาจจะทำให้พูดไม่ชัดในระยะแรกๆ เพราะการที่เราเข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่าจะทำให้มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากทำให้เรารู้สึกพูดไม่ชัดซึ่งเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันและยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราด้วย แต่หลังจากการเข้ารับการจัดฟันไปซักระยะอาการเหล่านี้ก็จะหายไป


เนื่องจากช่องปากของเราเริ่มชินกับการที่มีเครื่องมือติดตั้งอยู่บนผิวฟัน ทำให้สามารถปรับตัวได้และปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน ยังมีอุปสรรคอย่างหนึ่งนั่นก็คือการรับประทานอาหารเพราะอาจจะทำให้รับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารลดลง เนื่องจากการที่เรามีเครื่องมือจัดฟันอยู่ภายในช่องปากนั้น ทำให้เราบดเคี้ยวอาหารได้ยาก


ซึ่งการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟันนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงของวัยรุ่นซึ่งแน่นอนว่าวัยรุ่นจะต้องชื่นชอบกับการรับประทานอาหารที่มีความแข็ง เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง ซึ่งต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นศัตรูกับเหล็กจัดฟันเลยทีเดียว เพราะทำให้เข้าไปติดในเหล็กจัดฟันได้ง่ายและทำความสะอาดออกได้ยากนั่นเอง และถ้าหากเรารับประทานอาหารที่มีความแข็งเหนียวเป็นประจำ อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเสียหายของเครื่องมือได้ เพราะเวลาที่เรารับประทานอาหารที่มีความแข็ง เราจะต้องใช้แรงกัดค่อนข้างมาก อาจจะส่งผลกระทบต่อเครื่องมือการจัดฟันและอาจจะทำให้เครื่องมือหลุดออกมาได้ขณะที่เรารับประทานอาหาร นี่คือปัญหาหลักๆของผู้เข้ารับการจัดฟันที่มีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปากหรือที่เรียกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป



แต่ในแง่ของการจัดฟันแบบใสนั้น ปัญหาเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดายและเครื่องมือการจัดฟันยังถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้เข้ากับช่องปากของเราได้เป็นอย่างดี ไม่มีอาการหลวม หรือไม่ทำให้เครื่องมือการจัดฟันหลุด ในเรื่องของการพูด การออกเสียง อาจจะเกิดในช่วง 1-2 วัน หลังจากสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสหรือบางรายอาจจะไม่มีปัญหาในเรื่องของการพูด การออกเสียงเลย เพราะเครื่องมือมีความพอดีกับช่องปากของเราและในส่วนของการรับประทานอาหารนั้น หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะรับประทานอาหาร จึงทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ มีการบดเคี้ยวที่ดีขึ้น เพราะเวลาที่เรารับประทานอาหารเราสามารถถอดเครื่องมือออกได้

 
ดังนั้น เครื่องมือการจัดฟันจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับการจัดฟัน ทั้งยังช่วยทำให้เราสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่และหลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการจัดฟันควรที่จะทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาดทุกซอกทุกมุม เพื่อลดการเกิดฟันผุ เราก็ยังยืนยันว่าการจัดฟันแบบใสจะช่วยทำให้เราบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ทั้งยัง ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอีกด้วยและในแง่ของสุขภาพช่องปากและฟันก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเครื่องมือการจัดฟันที่อาจจะหลุดได้ขณะแปรงฟัน จึงทำให้การจัดฟันแบบใสช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการจัดฟันได้เป็นอย่างดี



หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเรามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง เพราะทันตแพทย์ของเราผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมเป็นอย่างดี ด้วยการการันตีประสบการณ์กว่า 10 ปี ทั้งนี้ ทางคลินิกของเรายังได้รับการรับรองสูงสุดจากINVISALIGN ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะการจัดฟันแบบใสจะต้องทำกับทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองแล้วเท่านั้น เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย




การจัดฟันใส ช่วยการพูด การบดเคี้ยวอาหารดีขึ้น จริงหรือ ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

15
บัญชีเงินฝากประจำ ประเภทเงินฝากตามจำนวนวัน-ธนาคารกรุงศรี (BAY)
ดอกเบี้ย : 0.700 - 8.500 %

จุดเด่น
การออมเงินโดยมีระยะเวลาที่ให้เลือกได้ตามจำนวนวัน และสามารถใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้
รายละเอียดบัญชี
สถาบันการเงิน : กรุงศรีอยุธยา
ชื่อบัญชี : บัญชีเงินฝากประจำ ประเภทเงินฝากตามจำนวนวัน
ลักษณะบัญชี : ไม่ต้องฝากทุกเดือน
ผู้มีสิทธิฝากและคุณสมบัติ : บุคคลธรรมดา, นิติบุคคลทั่วไป, นิติบุคคลไม่แสวงหาผลกำไร, ราชการ, รัฐวิสาหกิจ, ผู้ฝากประเภทอื่น (โปรดสอบถามธนาคาร)
เปิดบัญชีขั้นต่ำ : 500,000,000 บาท
ระยะเวลาฝากขั้นต่ำ : 1 - 365 หรือ 366 วัน

ประเภทอัตราดอกเบี้ย : แบบอัตราคงที่

อัตราดอกเบี้ย
ระยะเวลาฝาก   ช่วงเงินฝากที่เลือก   บุคคลธรรมดา   นิติบุคคลทั่วไป   นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร   ราชการ   รัฐวิสาหกิจ
ระหว่าง 1 วัน ถึง 2 วัน   ตั้งแต่ 500,000,000   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %
ระหว่าง 3 วัน ถึง 7 วัน   ตั้งแต่ 10,000,000   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %
ระหว่าง 8 วัน ถึง 15 วัน   ตั้งแต่ 10,000,000   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %
ระหว่าง 16 วัน ถึง 30 วัน   ตั้งแต่ 10,000,000   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %   0.700 %
ระหว่าง 31 วัน ถึง 90 วัน   ตั้งแต่ 10,000,000 ถึง 999,999,999   8.500 %   8.500 %   8.500 %   8.500 %   8.500 %
ตั้งแต่ 1,000,000,000   0.950 %   0.950 %   0.950 %   0.950 %   0.950 %
ระหว่าง 91 วัน ถึง 180 วัน   ตั้งแต่ 10,000,000 ถึง 999,999,999   0.950 %   0.950 %   0.950 %   0.950 %   0.950 %
ตั้งแต่ 1,000,000,000   1.050 %   1.050 %   1.050 %   1.050 %   1.050 %
ระหว่าง 181 วัน ถึง 366 วัน   ตั้งแต่ 10,000,000 ถึง 999,999,999   1.000 %   1.000 %   1.000 %   1.000 %   1.000 %
ตั้งแต่ 1,000,000,000   1.100 %   1.100 %   1.100 %   1.100 %   1.100 %

หมายเหตุ : อ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยธนาคารตามประกาศฉบับล่าสุด ดูได้ที่นี่

รายละเอียดดอกเบี้ย : -
เงื่อนไขสำคัญ :
จำนวนเงินฝากในการเปิดบัญชีครั้งแรก และการฝากเงินในครั้งต่อไปทุกครั้ง สำหรับระยะเวลาการฝาก 1-2 วัน ไม่น้อยกว่า 500,000,000 บาท และสำหรับระยะเวลาฝากอื่น ไม่น้อยกว่า 10,000,000 บาท
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝาก ธนาคารจะโอนอกเบี้ยหลังหักภาษี ณ ที่จ่ายเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ซึ่งได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไว้กับธนาคาร

เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝาก ถ้าไม่มีการถอนเงินหรือหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ให้ถือว่าตกลงต่ออายุการฝากและมีอายุการฝากเท่ากับระยะเวลาการฝากเดิม โดยมีเงื่อนไขการฝากเงิน และอัตราดอกเบี้ย ตามประกาศของธนาคารที่ใช้บังคับอยู่ ณ วันต่ออายุการฝากนั้น
การปิดบัญชีต้องทำที่สาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้น
 
การจ่ายดอกเบี้ย : จ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด

สิทธิการถอนก่อนกำหนด : หากเป็นการถอนเงินที่ได้ฝากไว้ก่อนครบกำหนด ธนาคารจะไม่จ่ายดอกเบี้ย
ช่วงที่เปิดรับฝาก : ไม่กำหนด
สอบถามเพิ่มเติม :
Tel. 1572
 
คำแนะนำการใช้ข้อมูล :
อย่าฝากเงินโดยดูดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวแต่ควรพิจารณาเงื่อนไข ความสะดวกและความมั่นคงของสถาบันการเงินประกอบทุกครั้ง
รายละเอียดที่นำเสนอเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น โปรดตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากกับธนาคารทุกครั้งก่อนตัดสินใจ


ดอกเบี้ยเงินฝาก: บัญชีเงินฝากประจำ ประเภทเงินฝากตามจำนวนวัน-ธนาคารกรุงศรี (BAY) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/saving/

หน้า: [1] 2 3 ... 16
Tage : ประกาศขายของฟรี ติด google , ลงประกาศฟรีไม่ต้องสมัคร , ประกาศฟรีไม่มี หมดอายุ , เว็บประกาศฟรีติดอันดับ , ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ , ฝากร้านฟรีโพสฟรี , รวมเว็บลงประกาศฟรี , ลงประกาศฟรี 100 , รวมเว็บลงประกาศฟรี ติด google , ลงประกาศฟรี ติดอันดับ google , ลงประกาศฟรีออนไลน์ , เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ , ลงประกาศฟรี pantip , ลงประกาศฟรี , โพสฟรี โปรโมทฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โพสประกาศฟรี ลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี , เว็บลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี Post ฟรี ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด เว็บลงประกาศขายฟรี โพสประกาศฟรี ติด google ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทเว็บฟรี ติดหน้าแรก google ฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายรถฟรี โพสฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ฟรี ลงโฆษณาฟรี google ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี เว็บลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ฟรี ติด google