การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดยยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ความหมายคือ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ ต้นพืช ทุกชนิดสามารถนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรได้หมด เพียงแต่เราต้องรู้ว่าเอามาใช้กับอาการหรือโรคใด มีพิษภัยอย่างไร จะปรุงอย่างไรให้ถูกวิธีให้ปลอดภัย นี่คือหน้าที่ของแพทย์แผนไทย
ข้างต้น คือ คำบอกเล่าของ นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พูดถึงเรื่องการใช้ “สมุนไพรไทย” ในการช่วยเหลือ คนป่วยโควิด-19 ที่ทุกวันนี้มีมากมายทั่วประเทศ และยังไม่มีทีท่าจะสงบง่ายๆ ซึ่งคนป่วยจำนวนมาก “ไร้ทางเลือก” จำเป็นต้องรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน
การดูแลรักษาพยาบาลทางการแพทย์ แบ่งเป็น 3 ระดับ
ก่อนจะเข้าเรื่องสมุนไพร นพ.ขวัญชัย ได้อธิบายหลักการในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับใหญ่ คือ
1. การดูแลตัวเอง (Self Care) : การให้ความรู้ที่ถูกต้อง ดูแลกันเองโดยญาติพี่น้องหรือตัวเอง มีการคัดกรองความรู้ ไม่ได้มาจากการหลอกลวง ซึ่งก็มีผู้ผลิตหลายแห่งที่เอาความรู้ของทางราชการไปโฆษณาขายของ ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะเราไม่ได้บอกว่าเป็นการรักษาได้ 100% แต่คือสิ่งที่ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานขึ้นมา โดยไม่ได้มีการโอ้อวดสรรพคุณจนเกินไป
2. หน่วยบริการปฐมภูมิ : การดูแลจากคลินิก อนามัย หน่วยสาธารณสุขของ กทม. โดยเวลานี้เราเอามาช่วยในระบบ Home Isolation จะมีหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไปเยี่ยม
3. ศูนย์การแพทย์ หรือ โรงพยาบาล : ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการดูแล ซึ่งฟ้าทลายโจร เป็นสมุนไพร ที่มีการวิจัยและถูกยกระดับไปช่วยรักษาการต้านไวรัสโควิด-19 แล้ว ซึ่งตรงนี้ช่วยประหยัดงบประมาณที่จะต้องนำเงินไปซื้อยาจากต่างประเทศ
ส่วน “สมุนไพร” ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. พืชวัตถุ
2. สัตว์วัตถุ เช่น ดีหมี ดีงู กระดูกสัตว์ เป็นต้น
3. ธาตุวัตถุ สารต่างๆ เช่น เกลือแร่ แร่ธาตุต่างๆ
“ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่จะถูกยกระดับไปใช้ของกรมการแพทย์ ตอนนี้มีการศึกษาอยู่หลายชนิด ซึ่งที่ผ่านมา ทางจีนก็ได้มีการศึกษาสมุนไพรจีน ที่นำมาใช้ผู้ป่วยโควิด-19 แต่ของเราต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ฉะนั้นเวลานี้จึงอยากแนะนำสมุนไพรที่ใช้สำหรับการดูแลสุขภาพตนเอง”
ที่ผ่านมา มีการแชร์ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทย และ เครื่องเทศบางชนิดที่ใช้สำหรับต่อสู้ไวรัสโควิด-19 บางข้อความนั้นก็ยอมรับว่าอาจจะโอ้อวดเกินจริง แต่บางชนิดถือว่าช่วยเหลือผู้ป่วยได้ ในยามวิกฤติเช่นนี้
รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยว่า ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า การติดเชื้อ โควิด-19 ไม่ใช่ทุกคนจะติดเชื้อแล้วเกิดอาการรุนแรง ภาพรวมก็คือ โควิด-19 ก็คล้ายกับ “ไข้หวัดใหญ่” แต่ความแตกต่างคือ โควิด-19 มีการกลายพันธุ์ และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและเฉียบพลัน
“ยังมีคนไข้บางคนที่ติดโควิด-19 แล้ว หายได้เอง ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ เพราะจะย่อยค่อนข้างยาก”
เวลานี้ หากตรวจพบผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 80 จะให้อยู่บ้าน รักษาตัวเอง หรือที่เรียกว่า “home isolation” สิ่งที่ควรเน้น คือ “อาหาร” โดยเฉพาะการเพิ่มสมุนไพร และเครื่องเทศ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซึ่งมันก็คือ “เครื่องต้มยำ” ดีๆ นี่เอง รวมไปถึง หอมแดง กระเทียม จะช่วยให้เลือดลมในร่างกายเราเดินดีขึ้น เครื่องเทศสำหรับทำอาหารเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ภูมิร่างกายของเราดีขึ้น ดังนั้น อาหารไทยประเภท ต้มยำทำแกง ที่มีส่วนผสมสมุนไพร
หลักการใช้สมุนไพร เราต้องเลือกใช้แบบผสมผสาน “อย่ากินตัวใดตัวหนึ่งมากจนเกินไป”
ส่วนเครื่องดื่ม สมุนไพรที่อยากจะแนะนำ คือ น้ำขิง แต่อย่าใส่น้ำตาลเยอะไป เพราะถ้าใส่เยอะ เราอาจจะได้รับพิษภัยจากน้ำตาล
เครื่องดื่มกระชาย สามารถนำไปผสมน้ำผึ้งกับมะนาว เติมเกลือนิดหน่อย เราก็จะได้เครื่องดื่มกระชายที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นภูมิร่างกาย แต่การกินกระชาย มีข้อควรระวังสำหรับกลุ่มคนที่รับประทานยา “ต้านการแข็งตัวของเลือด” ซึ่งการกินกระชายมากๆ อาจจะกระทบกับยาต้านการแข็งตัวของเลือดที่เรากินได้
ฉะนั้น เป็นไปได้ คนที่มีโรคประจำตัว ก่อนจะใช้สมุนไพร ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาท่านก่อน
นอกจากนี้แนะนำสมุนไพร ที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่มอีก 1 ชนิด คือ “ตรีผลา”
“ตรีผลา” คือ สมุนไพร 3 ชนิด ประกอบด้วย มะขามป้อม ลูกสมอภิเภก และ ลูกสมอไทย ซึ่งในช่วงนี้ที่ไวรัสแพร่ระบาด และเข้าหน้าฝน เราสามารถปรับสัดส่วนได้ เดิมส่วนผสม 3 ชนิดจะใช้อัตราส่วนที่เท่ากัน 1:1 เรียกว่าเป็นสูตรเสมอภาค
แต่สภาพอากาศฝนตกแบบนี้ และมีการระบาดของไวรัส สัดส่วนที่แนะนำคือ ให้เพิ่ม มะขามป้อม 3 ส่วน ลูกสมอภิเภก 2 ส่วน ลูกสมอไทย 1 ส่วน นี่ถือเป็นตำยา ที่เรียกว่า “มหาพิกัด ตรีผลา” จะช่วยให้ระบบขับถ่าย เสมหะ หรือ จะช่วยให้ดักจับเชื้อไวรัสที่จะเข้าทางเดินหายใจ ซึ่งมันจะขับถ่ายออกมาเป็นเสมหะ ที่เราบ้วนออกมา
อบสมุนไพร ต้ม ดื่ม ก็ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
ที่ผ่านมา มีประชาชน นำสมุนไพรไปต้มกิน นอกจากนี้ยังเอามาอบตัวด้วย คุณหมอขวัญชัย อธิบายว่า การใช้สมุนไพรเหล่านี้ เวลานำมาต้มแล้ว มันจะมี volatile oil (น้ำมันหอมระเหย) จากนั้นเอามาสูดดม ซึ่งการสูดดมจะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ขับเสมหะ ซึ่งถามว่าช่วยได้มั้ย ตอบเลยว่าช่วยได้ โดยเฉพาะระบบเสมหะที่อยู่ในทางเดินหายใจ ทำให้สามารถขับเสมหะได้มากขึ้น
ที่ผ่านมา มีการวิจัยฯ รองรับการแพทย์แผนไทยลักษณะนี้บ้างไหม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ตอบว่า ที่ผ่านมา มีงานวิจัยรองรับสำหรับ สำหรับการใช้วิธี “น้ำมันหอมระเหย” ว่ามีประสิทธิผลดีต่อการใช้ต่อรักษาผู้ป่วย “ไข้หวัด” หรือโรคที่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจอยู่แล้ว เพียงแต่เรา เพิ่งรู้จักกับโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว
“ตอนนี้ มีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง กำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับการทำน้ำมันหอมระเหยกันอยู่ โดยใช้สมุนไพร ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น สเปรย์พ่นผ่านไปทางเดินหายใจ แต่...สถานการณ์ปัจจุบัน ถือเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ความเห็นของผม คิดว่าเราอย่ารอเลยครับ จะมารอผลวิจัยออกมา ตามมาขึ้นทะเบียนกับ อย. มันจะไม่ทันกาล เราต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน อะไรที่อยู่ที่ครัว ที่ต้มแล้วจะกลายเป็นน้ำมันหอมระเหย สูดดม เครื่องดื่ม เช่น น้ำขิง ตะไคร้ ถือว่าใช้ได้หมด”
กระชายสกัด: สมุนไพรไทย ขิง ข่า กระชายขาว ตรีผลา ฟ้าทะลายโจร ในช่วงโควิดระบาด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/